ฝนตกหวั่นน้ำชะล้างสารเคมีใน"โรงงานวินโพรเสส"ที่ถูกไฟไหม้ไหลออกสู่ชุมชน ด้านอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินทางมายังศาลระยองเพื่อขอให้ศาลสั่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมจัดการกับกองกากสารเคมีในโรงงานวินโพรเสสที่เกิดเพลิงไหม้
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 7 พ.ค.67 ในพื้นที่จังวัดระยองฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ภายในโรงงานวินโพรเสสมีน้ำเจิ่งนองในบ่อที่ขุดไว้เพื่อรองรับน้ำซึ่งมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นและน้ำจากพื้นที่โรงงานจำนวนมากก็ไหลลงในรางที่ทอดยาวไปลงยังบ่อที่ดักสารเคมี ซึ่งอยู่ภายในโรงงาน
นายเทียบ อายุ 68 ปี ชาวบ้านหนึ่งในหลายคนที่มีที่ดินอยู่ติดกับโรงงานและได้รับผลกระทบมายาวนานกว่า 10 ปีกระทั่งมาเกิดเหตุไฟไหม้ก็เสมือนกับการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอีก เมื่อฝนตกลงมาจึงเกิดความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเพราะน้ำที่ชะล้างสารเคมีจะต้องไหลออกมานอกโรงงาน แม้ว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง จะเร่งขุดบ่อเสริมคันดินให้สูงขึ้น แต่การทำงานก็ยังไม่แล้วเสร็จ ฝนมาตกเสียก่อนและมีทีท่าว่าฝนจะตกต่อเนื่องหลายวันจึงหวั่นวิตกว่า มวลน้ำจากโรงงานจะไหลออกไปยังพื้นที่เกษตรและแหล่งน้ำโดยรอบ
ขณะที่นายประสานต์ พฤกษาชาติ รองนายก อบจ.ระยองได้ประชุมผู้เกี่ยวข้องวางแผนขุดบ่อดักสารเคมีบ่อที่ 3 โดยจะใช้พื้นที่หลังโรงงาน ซึ่งเป็นสวนยางของนายเทียบ โดยคาดว่าต้องใช้พื้นที่ประมาณ 10 ไร่เพื่อดักน้ำจากโรงงานหากมีฝนตกมาซ้ำอีก ซึ่งได้เจรจาพูดคุยกับนายเทียบ ขอใช้ที่ดินเพื่อแก้ไขวิกฤติโดยจะได้ชดใช้คืนความเสียหายให้ซึ่งบ่อที่จะขุดในที่ดินของนายเทียบ จะเป็นบ่อที่ขุดไว้เพื่อรองรับน้ำที่ล้นจากทุกบ่อในโรงงานไม่ให้ไหลออกไป
ด้านเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เข้าตรวจสอบระบบการระบายน้ำของโรงงานในช่วงเช้าพบว่ามีคราบน้ำมันเข้มข้นอยู่ในทางระบายน้ำรอบโรงงาน ส่วนสารเคมีที่ยังเหลืออยู่ยังไม่ถูกน้ำฝนชะล้างไหลออกนอกตัวอาคาร และช่วงบ่ายยังจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวนของวัตถุสารเคมีในโรงงาน อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกันนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินทางมาแถลงต่อศาลจังหวัดระยองเพื่อขอให้ศาลสั่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำเนินการกับกองกากสารเคมีในโรงงานวินโพรเสส โดยใช้เงินประมาณ 6 ล้านบาทที่เหลืออยู่ที่วินโพรเวส วางที่ศาลมาดำเนินการเร่งด่วนก่อน
นายจุลพงษ์ กล่าวว่า จากการมาขอแถลงต่อศาลจังหวัดระยอง เจ้าของโรงงานฯ ยินยอมที่จะให้นำเงินที่วางศาล 6 ล้านบาทไปดำเนินการจัดการกำจัดของเสียสารเคมีในโรงงานฯแล้ว โดยข้อสรุปคือของเสียจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกเป็นของเสียที่ต้องกำจัดเร่งด่วน ตนได้แถลงต่อศาลว่าจะเข้าไปประเมินว่ามีปริมาณของเสียเร่งด่วนที่จะต้องกำจัดเร่งด่วนเท่าไหร่ จะไปเร่งเขียนแผนงาน และข้อกำหนดขอบเขตของงาน ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องเอาแผนงานมาส่งศาลแล้วศาลถึงจะพิจารณา อนุญาตเอาเงินที่วางศาลอยู่ โอนมาให้กรมโรงงานฯใช้เงินเพื่อดำเนินการกับของเสียส่วนแรกนี้ เอาไปบำบัดกำจัด ส่วนของเสียสารเคมีที่เหลือ กรมโรงงานฯ ก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ พ.ร.บ.วัตถุอันตรายต่อไป ของบประมาณจากส่วนอื่นมาดำเนินการนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี แล้วค่อยฟ้องร้องเรียกคืนจากเจ้าของโรงงานฯ ต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี