พัฒนาริมคลองลาดพร้าวคืบ40% ยึดเขตสายไหมต้นแบบ คาด3เดือนปิดจ๊อบ
15 ส.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน และปฏิรูปการบริหาราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 7/2561 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า ความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ริมคลองลาดพร้าว กทม. ทั้งเรื่องการก่อสร้างเขื่อน และการสร้างบ้านมั่นคง มีความคืบหน้า 40% มีผู้ที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการอีก 20% ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ทั้งในและนอกแนวก่อสร้างเขื่อน ซึ่งรัฐบาลยังคงใช้วิธีการสร้างความเข้าใจในการเจรจาเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะใช้พื้นที่การก่อสร้างเขื่อนในเขตสายไหมเป็นพื้นที่ต้นแบบ เนื่องจากพื้นที่สายไหม จะมีการก่อสร้างเขื่อนประมาณ 7.37กิโลเมตร รวมถึงตอกเสาเข็มประมาณ 7,200 ต้น ซึ่งขณะนี้ดำเนินการได้ 74% แล้ว ส่วนการสร้างบ้านมั่นคงได้ดำเนินการไป 114 หลัง ถือเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนในพื้นที่สายไหมนั้น จะมีการเร่งรัดการก่อสร้างบ้านนอกพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากต้องรื้อย้ายก่อนเวลากำหนด ทางราชการจะช่วยเหลือในเรื่องงบประมาณในการรื้อย้ายบ้านก่อน ส่วนบ้านที่เหลือจะใช้วิธีเจรจาร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้บริษัทผู้รับสร้างเขื่อนเร่งนำเครื่องมือเข้าดำเนินการในพื้นที่ โดยจะสามารถสร้างเขื่อนในเขตสายไหมได้ครบในระยะเวลา 3 เดือน ถือว่าเป็นโครงการต้นแบบที่ชัดเจนที่สุดในเรื่องความคืบหน้าการสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว
ทั้งนี้ จะมีการลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจอีก 3 ครั้ง ในเขตห้วยขวาง จตุจักร สายไหม ดอนเมือง นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ดำเนินการสร้างเขื่อนผ่านแนวที่ดินเอกชน 3 ราย เพื่อทำให้โครงการไม่หยุดชะงัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี