‘ตำรวจสอบสวนกลาง’รวบคนไทยขายชาติ รับเงิน‘บอสจีน’ ผันตัวเป็นพ่อบ้าน เฝ้า‘บัญชีม้า’ฝั่งปอยเปต พ่วงเป็น‘นายหน้า’หาบัญชีม้าทั่วโคราชกว่า 200 ราย
26 พฤษภาคม 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. , พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง สว.กก.3 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ร่วมกันจับกุมนายวินัย หรือเปรี้ยว อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , โดยทุจริตหรือหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน , สมคบโดยตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” โดยจับกุมได้ที่บริเวณรีสอร์ตในพื้นที่หมู่ 12 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา
พฤติการณ์สืบเนื่องจาก บก.ปอท. ได้รับมอบหมายจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้สืบสวนกรณีผู้เสียหายซึ่งถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงินลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในเพจเฟซบุ๊กปลอมที่แนะนำการเทรดหุ้น และได้โอนเงินไปยังบัญชีของผู้ต้องหาซึ่งเป็นบัญชีม้าหลายคน รวมความเสียหายจำนวน 3,800,000 บาท
นอกจากนี้ปลายปี 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้เปิดปฏิบัติการ Cyber Guardian ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและตรวจยึดทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด โดยจับกุมผู้ต้องหาได้รวมทั้งสิ้น 7 ราย และตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านหรูราคา 27 ล้านบาท จำนวน 1 หลัง , รถยนต์ จำนวน 2 คัน , คอนโดมีเนียมหรู จำนวน 4 ห้อง , โฉนดที่ดินที่ จ.ภูเก็ต ตาก เชียงใหม่ และเชียงราย จำนวนหลายแปลง , เงินสดกว่า 6 แสนบาท , ทองคำแท่ง และกระเป๋าแบรนด์เนมอีกหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดกว่า 80 ล้านบาท
จากนั้นได้สืบสวนอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามจับกุมตัวนายวินัย ผู้ต้องหารายสำคัญซึ่งเป็นนายหน้าที่ชักชวนบัญชีม้าในคดีนี้ไปเปิดบัญชีและสแกนหน้าที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และยังเป็นพ่อบ้านคอยทำแอปฯธนาคารให้บัญชีม้า และเฝ้าบัญชีม้าที่ออฟฟิศฝั่งปอยเปตอีกด้วย โดยสืบทราบว่า นายวินัย หลบหนีเข้ามาพักอยู่รีสอร์ตในพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เพื่อหาบัญชีม้า จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เข้าตรวจสอบ
ขณะเข้าตรวจสอบพบนายวินัย อยู่ที่รีสอร์ตดังกล่าว และกำลังพาคนในพื้นที่ไปเปิดบัญชีและทำแอปฯธนาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวพร้อมแสดงหมายจับ ซึ่งนายวินัย รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การเบื้องต้น นายวินัย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าเริ่มจากเคยรับจ้างเปิดบัญชีม้า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 จากนั้นเมื่อบัญชีถูกอายัด และรู้ว่าบัญชีถูกไปใช้เป็นบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงไม่กล้ากลับประเทศไทย เนื่องจากกลัวว่าจะถูกจับกุม จึงผันตัวเป็นพ่อบ้าน คอยเฝ้าบัญชีม้าที่รอสแกนหน้า ที่ออฟฟิศซานโฮ ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยได้รับเงินเดือนจากบอสจีน เดือนละ 15,000 บาท
เมื่อบัญชีม้าที่เคยมาสแกนหน้ากลับไป และหาบัญชีม้ามาเพื่อส่งออฟฟิศดังกล่าวจะติดต่อผ่านผู้ต้องหาซึ่งจะได้รับค่านายหน้าบัญชีละ 1,000 บาท โดยทำมาแล้วเกือบ 2 ปี มีบัญชีม้าที่ชักชวนมาจากทั่วจังหวัดนครราชสีมา กว่า 200 ราย และเมื่อเจ้าหน้าที่มีการเข้าปราบปรามที่ออฟฟิศฝั่งปอยเปต เมื่อช่วงต้นปี 2568 ทำให้ออฟฟิศปิด จึงได้ข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติกลับเข้ามาประเทศไทย และถูกจับกุมได้ที่ จ.นครราชสีมา ขณะกำลังพาบัญชีม้าเปิดบัญชีและทำแอปฯธนาคาร //-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี