วันนี้ (18 ส.ค.) สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ขณะนี้แม่น้ำ 3 สาย คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี ที่ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำ "สามประสบ" ที่บริเวณวัดวังก์วิเวการาม หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวก็คืออ่างเก็บน้ำเขื่อวชิราลงกรณ หรือเขื่อนเขาแหลม ส่วนปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากฝนตกทุกวัน ทำให้ขณะนี้น้ำเหลืออีกแค่ประมาณ 3.50 เมตรเท่านั้นก็จะถึงพื้นสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ส่วนที่บริเวณหอระฆังและโบสถ์ วัดวังก์วิเวการามเก่า ปริมาณน้ำเหลืออีกประมาณ 1-2 เมตรเท่านั้นโบสถ์และหอระฆังก็จะถูกน้ำท่วมจนมิด

ส่วนประชาชนที่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ที่เชิงสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ ฝั่งชุมชนชาวมอญ ต้องอพยพไปอยู่ที่สูงหรือไปอาศัยอยู่กับญาติชั่วคราว เพราะน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณดังกล่าวหลายหลัง แต่ทุกครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นเขตกันน้ำท่วมของ กฟผ.ที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็ทราบและเข้าใจกันเป็นอย่างดี

แต่อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงแม้ชาวบ้านจะไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง แต่นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ก็ไม่ได้ทอดทิ้ง จึงสั่งการให้นานปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี รวมทั้งกิ่งกาชาดอำเภอสังขละบุรี และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ร่วมกันนำถุงยังชีพไปมอบให้ เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับทุกครัวเรือน

ทั้งนี้ กฟผ.ได้ให้คำแนะนำผู้ประกอบการท้ายน้ำ ดังนี้ 1.ขอให้ผู้ประกอบการที่มีแพอยู่ในลำน้ำแควน้อยช่วยดูแลแพ ผูกยึดโยงและตรวจสอบทางขึ้นลงให้มั่นคงแข็งแรง 2.ตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งใช้งานให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัย 3.ตรวจสอบระบบแพปั๊มน้ำประปาที่อยู่ในลำน้ำแควน้อยให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัยรวมทั้งระบบไฟฟ้าที่ใช้กับปั๊มน้ำ 4.สิ่งปลูกสร้างที่อยู่ใกล้ลำน้ำแควน้อยให้ประเมินความเสี่ยงทำการย้ายทรัพย์สินไปอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย และ 5.ฝากแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำหรือล่องแพให้สวมเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง