แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยในการจราจรและการใช้รถใช้ถนนของประชากรวัยเด็กและวัยแรงงาน โดยให้ทุกภาคส่วนหาแนวทางในการป้องกันและจัดการกับปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละปี
ด้วยการที่เป็นผู้ใช้รถใช้ถนน ผ่านพบเห็นอุบัติเหตุต่างๆ บนท้องถนนมาหลายครั้ง โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่เฉี่ยวชนกับเสาหลักกั้นทางซึ่งทำขึ้นจากปูนที่มักจะทำให้เกิดความเสียหายและสร้างความบาดเจ็บที่รุนแรงต่อตัวของผู้ประสบเหตุ จึงทำให้นักศึกษาจาก วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี มีแนวคิดที่จะหาทางป้องกันและลดระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ ทีม “สี่สหาย-สายช่าง”ที่เกิดขึ้นจากรวมตัวกันของนักศึกษา ปวช.ปี 3 จากแผนกต่างๆ จึงได้คิดค้นวัสดุที่จะนำมาทดแทน “เสาหลักนำทาง-เสาหลักกิโลเมตร” ที่สร้างขึ้นจากปูนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
“ที่ผ่านมาได้เห็นอุบัติเหตุจากการที่รถชนกับเสาหลักที่เป็นปูนหรือแผงเหล็กกั้นทาง ผู้บาดเจ็บก็มักจะมีอาการรุนแรงสาหัส ประกอบกับเคยเห็นว่าตามทางโค้งต่างๆ ในสนามแข่งรถนิยมใช้ยางรถยนต์เก่ามากั้นเพื่อบรรเทาความรุนแรง ก็เลยเอาแนวคิดนี้มาปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษา แล้วก็เกิดความคิดว่าเรามาลองทำเสาหลักนำทางจากยางพารากันดูไหม” นายธรรมนูญรุจิญาติ “หรั่ง” นักศึกษาแผนกช่างเชื่อมโลหะ ปวช.ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี เล่าถึงที่มาของไอเดีย
จากความคิดว่า “น่าจะทำได้” ทำให้สมาชิกของทีมทั้ง 3 คนช่วยกันคิดค้นหาวิธีที่ทำให้ยางพารามีความแข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความทนทาน และมีความยืดหยุ่นไม่สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและร่างกายของผู้ประสบเหตุไปพร้อมกัน
ผลงาน “เสาหลักนำทางจากยางพารา” ได้ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการรอบแล้วรอบเล่า จาก 134 ทีม จนผ่านเข้าสู่รอบ19 ทีมสุดท้าย และได้มีการจัดกิจกรรม Workshop เพื่อเรียนรู้มุมมองใหม่ๆ ในการนำนวัตกรรมมาใช้ในการส่งเสริมสุขภาพของชุมชน และเพื่อพัฒนาชิ้นงานให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
จากไอเดียที่ไม่หยุดนิ่งในที่สุดผลงาน “เสาหลักนำทางจากยางพารา” ก็สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ ระดับอาชีวศึกษาจากการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ หรือ ThaiHealth INNO Awards ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อเปิดโอกาสให้กับเยาวชนที่รุ่นใหม่ระดับมัธยมและอาชีวศึกษาได้สร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานความคิดริเริ่มสร้างสรรค์บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดีในทุกๆ ด้าน
ด้าน อาจารย์ศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล อดีตรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการตัดสิน เปิดเผยว่าผลงานเสาหลักนำทางจากยางพารานั้น สามารถตอบโจทย์ที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศได้ 3 ด้าน คือสามารถสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ป้องกันบรรเทาความรุนแรงจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และเป็นนวัตกรรมใหม่ที่รวมเอาเทคโนโลยีต่างๆ เช่นมีระบบ GPS เซ็นเซอร์เตือนภัย ที่เชื่อมโยงเข้ากับระบบ Line เพื่อแจ้งตำแหน่งที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่มีราคาที่ถูกและสามารถใช้งานได้นานถึง 8 ปี
“สิ่งที่สำคัญคือผลงานชิ้นนี้ยังตอบโจทย์ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และปัญหาในเชิงพื้นที่ซึ่งก็คือเรื่องของยางพาราที่มีราคาตกต่ำ ที่หากขยายผลนำไปใช้ทั่วประเทศนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้แล้วยังสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนได้อีกเป็นจำนวนมาก”
“สสส. ไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่การประกวดเพื่อให้ได้ชิ้นงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ แต่มุ่งหวังที่จะสร้างเมล็ดพันธุ์นักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่เกิดขึ้นทั้งลูกศิษย์และครู ทั้งในระดับมัธยมและอาชีวศึกษา ซึ่ง สสส. ได้วางแผนการทำงานร่วมกับครู อาจารย์ ทั้งสายสามัญและสายอาชีพ เพื่อบ่มเพาะแนวคิดของการเป็นนักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อในศักยภาพของคน และความคิดสร้างสรรค์ที่ริเริ่มสิ่งใหม่ โดยใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนและสร้างเสริมสุขภาพให้กับทุกคนในสังคมไทย”ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวสรุป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี