ป่าไม้ขุดตอต้นพระศรีมหาโพธิ์บนเขาช่องกระจกไปอนุบาลที่ศูนย์อนุรักษ์ฯประจวบฯ ทุ่มสุดกำลังหาวิธีเพาะเนื้อเยื่อ ปลุกรากที่เหลือในดินให้แตกกล้าใหม่ลุ้นอีก 3 เดือนรู้ผล พร้อมนำต้นเล็กที่งอกไปตรวจ“ดีเอ็นเอ” เกิดจากต้นเดิมหรือไม่ ภาคประชาชนจี้นายกฯ-รมว.มหาดไทยเข้ามาจัดการ สอบการใช้อำนาจของผู้ว่าฯ ปล่อยให้ทรุดโทรมเฉาตาย ขณะที่ผลสอบข้อเท็จจริงสรุปเสนอพ่อเมืองแล้ว
ความคืบหน้ากรณีต้นพระศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่อายุ 60 ปี บริเวณจุดชมวิวด้านทิศตะวันออก บนเขาช่องกระจก ตรงข้ามศาลากลางจังหวัด ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ถูกตัดโค่นเหลือแต่ตอ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน พร้อมกับเร่งหาวิธีฟื้นฟูตอต้นโพธิ์ทรงปลูกที่ยังเหลือ
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม นายคงศักดิ์ มีแก้ว รักษาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยการจัดการป่าไม้ สำนักวิจัย กรมป่าไม้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่นำตอต้นพระศรีมหาโพธิ์จากยอดเขาช่องกระจกไปอนุบาล เพื่อฟื้นฟูสภาพที่ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยความหวังสุดท้ายจะนำเนื้อเยื่อบางส่วนที่ยังมีชีวิตมาเพาะ หวังว่าจะแตกตาขึ้นเป็นลำต้นใหม่ต่อไปในอนาคต ถึงจะมีโอกาสน้อยแต่ยังมีหวัง คาดว่าใช้เวลา 2-3 เดือนถึงจะทราบผล
นายคงศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับรากที่เหลือในดินบริเวณโคนต้นเดิม ทีมนักวิชาการจะดูแลใกล้ชิด ส่วนต้นพันธุ์ขนาดเล็กที่งอกในซอกหินใกล้ต้นเดิม ได้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบเพื่อขอนำไปอนุบาลดูแล จากนั้นจะทำมาสเตอร์ดีเอ็นเอของต้นแม่ไปเปรียบเทียบว่าเป็นต้นที่เกิดจากเมล็ดของต้นเดิมหรือไม่ ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าเป็นเมล็ดของต้นโพธิ์ทรงปลูก สำหรับการศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อต้นไม้ทรงปลูกที่ถูกตัดนี้ ยังไม่เคยมีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชชนิดนี้มาก่อน ถือเป็นครั้งแรก โดยสั่งเจ้าหน้าที่ทดลองกับต้นโพธิ์ธรรมดาที่ห้องปฎิบัติการที่กรมป่าไม้ เพื่อศึกษาข้อมูลควบคู่กันไปด้วย
“สำหรับต้นศรีมหาโพธิ์เป็นต้นไม้เสี่ยงภาวะทรุดโทรมน้อยมาก แต่บนยอดเขาช่องกระจกระบบรากถูกจำกัด ประจวบกับภาวะภัยแล้งที่ผ่านมา ล่าสุดพบระบบรากพัฒนาได้ แม้ความหวังน้อยที่สุด แต่ทุกฝ่ายใช้เทคโนโลยีมาช่วย ยืนยันจะดูแลรักษาต้นไม้ต้นนี้ เหมือนรักษาพ่อแม่ผมที่เจ็บป่วย”นายคงศักดิ์กล่าว
ด้านนายวิวัฒน์ วันกุมภา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.จ.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯเผยว่า จากการตรวจสอบย้อนหลังยังไม่พบหนังสือราชการแจ้งมอบที่ดินให้วัด จึงยังไม่สามารถหาข้อสรุปว่าหน่วยงานรัฐใดเป็นผู้ดูแลพื้นที่ หรือมอบพื้นที่บนเขาช่องกระจกให้วัดธรรมิการามวรวิหาร รับผิดชอบพื้นที่ภูเขาที่มีความชันเกิน 35 องศา แต่สอบถามพระราชสุทธิโมลี เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุติ เจ้าอาวาสวัดยืนยันว่าหลายปีก่อนมีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดรายหนึ่งแจ้งด้วยวาจาให้วัดดูแลพื้นที่บนเขาช่องกระจก เนื่องจากมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและสร้างที่พักสงฆ์ ทั้งนี้ หากมีหน่วยงานใดแจ้งความดำเนินคดีกับวัด หน่วยงานตามกฎหมายที่มีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่เขาช่องกระจกไม่จำเป็นต้องแจ้งให้สำนักงาน พศ.จ.ทราบล่วงหน้า
ต่อมานายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เผยว่า คณะกรรมการฯทำรายงานผลตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตัดต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกเสร็จแล้ว และส่งให้นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงนามก่อนรายงานรมว.มหาดไทยต่อไป ทั้งนี้ ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าฟื้นฟูต้นพระศรีมหาโพธิ์ประสบผลสำเร็จ จนแตกต้นอ่อนกลับมาผลิใบอีกครั้งจะขออุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศล แด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วย
อีกด้านมีความเคลื่อนไหวจากภาคประชาชน โดยน.ส.อังคณา พิมพ์สุวรรณ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯออกมาเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะทราบว่าก่อนหน้านี้ ผู้บริหารของจังหวัดรับทราบปัญหาต้นโพธิ์ทรุดโทรมจากการแจ้งครั้งแรก ตั้งแต่จัดกิจกรรมทาสีเหลืองบนเขาในเดือนตุลาคม 2560 โดยระบุว่ามีการนำน้ำทาสีเทรดต้นไม้ จึงขอให้ผู้อำนาจออกคำสั่งดำเนินการก่อนต้นโพธิ์จะได้รับผลกระทบแต่กลับนิ่งเฉย ทั้งที่ต้นไม้ทรงปลูกอยู่บนยอดเขาช่องกระจกตรงข้ามศาลากลางจังหวัด
น.ส.อังคณากล่าวอีกว่า กรณีนี้ผู้ว่าฯใช้อำนาจตั้งกรรมการฯสอบ เน้นคนที่ตัดโค่น รวมทั้งการใช้พื้นที่บนเขาช่องกระจก ผู้เกี่ยวข้องอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม มีปัญหาลูบหน้าปะจมูก ขอเสนอให้ตั้งตัวแทนจากองค์กรอิสระมาทำหน้าที่แทน เนื่องจากไม่มีหน่วยงานใดตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯ จึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทยให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี