รัชกาลที่10พระราชทาน
เครื่องราชฯ
ชาวไทย-ต่างชาติ188คน
ร่วมช่วย13หมูป่าออกจากถ้ำ
บิ๊กตู่เป็นปธ.มอบ7กันยายน
เปิดใจสื่อขอบคุณคนทั้งโลก
รบ.ปลื้มงานเลี้ยงผ่านราบรื่น
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้คนไทย-ต่างชาติที่ร่วมภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวงฯ วันที่ 7 กันยายนนี้ “ทีมหมูป่า” เปิดใจขอกราบขอบคุณคนทั้งโลกที่เสียสละ และเอาใจช่วยจนปลอดภัย ด้านรัฐบาลปลื้มงานเลี้ยงขอบคุณ‘รวมใจเป็นหนึ่งเดียว’ สำเร็จราบรื่นด้วยดี แขก 7 พันคน เข้าร่วมงานคึกคัก
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 6 กันยายน กลุ่มผู้ปกครองและเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี แม่สาย กว่า 40 คน นำโดย พระครูประยุต เจติยานุการ รักษาการเจ้าอาวาสวัดดอยเวา และพระวิสารโทภิกขุ หรือพระเอกพล วิสารโท หรือโค้ชเอก เดินทางโดยรถตู้จาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย มายังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อโดยสารเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD8715 ไปร่วมงาน “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว United as One” ณ ลานพระราชวังดุสิต ที่รัฐบาลจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือทั้ง 13 คนออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน-10 กรกฎาคม
ในการเดินทางครั้งนี้ น้องๆ หมูป่า ทั้ง 12 คน ได้สวมเสื้อสีเหลืองมีรูป 13 หมูป่า ที่ชมรมผู้ปกครอง 13 หมูป่าจัดทำขึ้น และทุกคนสะพายกระเป๋าเป้ใบใหม่ โดยก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน พบว่าน้องๆ มีความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก หลายคนไม่เคยนั่งเครื่องบิน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต โดยเครื่องบินได้ออกจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงในเวลา 09.20 น. และถึงท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 10.30 น.
ร่วมเปิดใจเหตุการณ์ติดถ้ำหลวงฯ
ต่อมา เวลา 13.30 น. คณะเยาวชนหมูป่า ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรม 13 ชีวิต ทีมหมูป่า อะคาเดมี พบสื่อมวลชน ณ ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) โดยมี นายวีระ โรจนพจน์รัตน์ รมว.วัฒนธรรม ,นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัด วธ. ให้การต้อนรับ ส่วน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จ.เชียงราย เป็นผู้ดำเนินการสัมภาษณ์ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากมาเฝ้ารอฟังเรื่องราวของทีมหมูป่า
มีความสุขที่ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ
โดยพิธีกรได้เริ่มคำถามแรกว่า หลังออกจากถ้ำหลวงมา 2 เดือนชีวิตเป็นอย่างไร น้องทีมหมูป่า ตอบในลักษณะเดียวกันว่า ใช้ชีวิตปกติได้เรียนหนังสือเหมือนเดิม มีความสุขที่ได้กลับมาเจอเพื่อนๆ ส่วนตอนบวชเป็นเณร ก็ได้สวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็น ได้ช่วยกันทำความสะอาดวัด ในระยะเวลา 9 วัน ได้ความรู้และมีจิตใจสงบมากขึ้น มีวินัยมากขึ้น ได้ช่วยเหลือผู้อื่นและได้บำเพ็ญประโยชน์ ได้ความรู้เรื่องธรรมะ มีความสงบในใจ ได้ฝึกระเบียบวินัย ได้ความมั่นใจ ทำให้เป็นคนตรงต่อเวลา
ช่วยกันปลอบใจระงับความกลัว
เมื่อพิธีกรถามว่า ขณะอยู่ในถ้ำมีวิธีระงับความกลัวกันอย่างไร น้องๆ ตอบว่า ทุกคนใช้วิธีการปลอบใจกันและกัน บอกว่าเดี๋ยวก็ได้ออกมาแล้ว เมื่อถามว่าสิ่งที่ทำให้เด็กผ่านพ้นห้วงเวลานั้นมาได้ คืออะไร พระเอกพล กล่าวว่า ต้องควบคุมสติตนเองก่อน จากนั้นได้บอกน้องในเชิงบวกว่า เดี๋ยวเราก็ได้ออกไปแล้ว คงติดอยู่ไม่นาน และให้กำลังใจขอให้น้องๆ สามัคคีกัน ห้ามแตกกัน รวมทั้งพยายามช่วยกันใช้ก้อนหินขุดโพรงเพื่อหาทางออกมาด้วย และให้น้องๆ กินน้ำให้อิ่มเพื่อประทังชีวิต
อยากพาบอลไทยไปบอลโลก
ส่วนคำถามว่า ในอนาคตเด็กๆอยากเป็นอะไร ซึ่งทุกคนตอบคล้ายกันว่า อยากเป็นนักฟุตบอล โดย น้องไนซ์-นายพีรพัฒน์ สมเพียงใจ เป็นแกนนำบอกว่า อยากพาบอลไทยไปบอลโลก ขณะที่น้องตี๋-นายพรชัย คำหลวง อยากเป็นทหารอากาศ น้องเติ้ล-ด.ช.ณัฐวุฒิ ทาคำทราย อยากเป็นสถาปนิก น้องบิว-ด.ช.เอกรัตน์ วงค์สุขจันทร์ อยากเป็นนายร้อยและหน่วยซีล ส่วนน้องอดุลย์-ด.ช.อดุลย์ สามออน อยากเป็นนักดนตรี
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ในช่วงสุดท้ายของการสัมภาษณ์พิธีถามว่า อยากบอกความในใจอะไรแก่สังคม โดยพระเอกพล กล่าวว่า ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานความช่วยเหลือตลอดมา ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่คอยสั่งการให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนชาวบ้าน และพี่น้องชาวต่างชาติ ที่เข้ามาช่วยเหลือน้องๆ ออกจากถ้ำหลวงฯ ขอขอบคุณจากใจ ขณะที่น้องๆหมูป่า กล่าวขอบคุณคนทั้งโลก ที่เสียสละช่วยเหลือชีวิตพวกเราทั้ง 13 คน
กราบขอบคุณทุกคนทั่วโลก
ส่วนน้องอดุลย์-ด.ช.อดุลย์ สามออน กล่าวว่า กราบขอบคุณทุกคนทั่วโลก ที่รักและเอ็นดู พวกเราทราบว่าทุกคนรักเรา คอยให้กำลังใจ รู้สึกว่ามีคนรู้จักทั้งโลก รู้สึกรักทุกคนเหมือนพ่อแม่ เพราะช่วงเวลาที่อยู่ในถ้ำ ทุกคนคอยที่จะต้อนรับและรอคอยพวกเราออกมาพบหน้ากัน อยากขอบคุณจากใจ
เมื่อพิธีกรถามอีกว่า บทเรียนสำคัญกรณีถ้ำหลวงฯ ควรเรียนรู้สิ่งใด พระเอกพล กล่าวว่า ให้ทุกคนใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท เพราะประมาทแม้เพียงนิดเดียวก็อาจจะพลาดได้ เช่นกรณีถ้ำหลวงเข้าไปในถ้ำโดยไม่ได้ศึกษาสภาวะอากาศตั้งแต่แรก แม้แดดออกท้องฟ้าสดใส พอเข้าไปกลับพบกับน้ำปิดปากถ้ำจนออกไม่ได้ ฝากทุกคนให้มีสติและสมาธิอย่าประมาทกับชีวิตเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้
เมื่อเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ น้องๆทีมหมูป่า และครอบครัวได้เยี่ยมชมนิทรรศการปฏิบัติการถ้ำหลวงวาระแห่งโลก จากนั้นได้เข้าชมสยามโอเชียนเวิลด์ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน
บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ก่อนงานเริ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น. ที่พระลานพระราชวังดุสิต บรรดารัฐมนตรีบางส่วนได้ทยอยเดินทางมาถึงภายในงานแล้ว เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมปฏิบัติงานช่วยเหลือทีมหมูป่าต่าง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการจัดเตรียมซุ้มอาหารพระราชทานทั้งคาวและหวาน รวมถึงเครื่องดื่มจำนวนมาก และซุ้มอาหารในส่วนที่รัฐบาลจัดเตรียมด้วย ทั้งนี้ ก่อนเริ่มงานผู้ร่วมงานได้ซักซ้อมพิธีพระราชทานพระราชกระแสทรงขอบใจเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกันนี้ภายในงานยังมีการติดตั้งจอแอลซีดี ให้ผู้ร่วมงานได้รับชมภาพบรรยากาศบนเวทีได้อย่างทั่วถึง
ตำรวจดูแลความปลอดภัยเข้ม
สำหรับการรักษาความปลอดภัย ทางตำรวจได้วางกำลังที่จุดคัดกรองจำนวน 4 จุด โดยมีตำรวจนครบาลตรวจอาวุธ และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มาร่วมงานถือบัตรประชาชนแสดงที่กล้องวงจรปิด และมีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)บันทึกรายชื่อผู้เข้าร่วมงานทุกคน ก่อนที่จะเข้าร่วมงานในพระลานพระราชวังดุสิต
ต่อมาเวลา 17.30 น. ผู้มาร่วมงานต่างเข้าประจำที่นั่งที่จัดไว้ จากนั้น เวลา 17.45 น. คณะรัฐมนตรี(ครม.)พร้อมด้วยคู่สมรส เดินทางเข้านั่งประจำ ณ โต๊ะหน้าเวทีการแสดง
นายกฯกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
กระทั่งเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยาเดินทางถึงลานพระราชวังดุสิต ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ และภริยา ได้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนที่จะขึ้นสู่เวทีใหญ่ถวายคำนับพระฉายาลักษณ์ และเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายสักการะ แล้วเดินไปรอ ณ จุดยืนที่กำหนด จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และกล่าวยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ ยืนประจำจุดบนเวที
ร่วมรับประทานอาหารพระราชทาน
ต่อมา พิธีกรเชิญผู้แทนแต่ละกลุ่มขึ้นรับสำเนาพระราชกระแสทรงขอบใจเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ จัดซุ้มที่รวมพระราชกระแสทรงขอบใจสำหรับผู้แทนแต่ละกลุ่มรับไปทำพิธีให้สมาชิกในกลุ่มต่อไป ณ จุดที่กำหนด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลงจากเวที นั่งประจำจุด ทีมหมูป่าขึ้นกล่าวขอบคุณ และนายกรัฐมนตรีเดินเยี่ยมชมร้านอาหารพระราชทาน ก่อนที่จะร่วมรับประทานอาหารพระราชทานตามอัธยาศัย ร่วมร้องเพลงสามัคคีชุมนุม โดยภายในงานได้มีการร้องเพลงประสานเสียง การขับร้องเพลงจากนักร้องชั้นนำ โดยวงดนตรีจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และการแสดงดนตรีอื่นๆ กระทั่งเวลา 21.00 น.วงดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีปิดงาน
สำหรับการจัดงานเลี้ยงขอบคุณครั้งนี้ รัฐบาลได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้พระลานพระราชวังดุสิตเป็นสถานที่จัดงานในวันที่ 6 กันยายน 2561 เวลา 18.00-21.00 น. และพระราชทานอาหารจัดเลี้ยง เป็นอาหารไทยและอาหารนานาชาติ ขณะที่รัฐบาลได้จัดอาหารสมทบ อีกหลายเมนู
ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทางด้าน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การจัดงาน “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว United as One” ในครั้งนี้ มีผู้ตอบรับมาร่วมงานจังหวัดต่างๆ รวมประมาณ 7,000 คน ทั้งหมดรู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมงานดังกล่าว รัฐบาลดูแลตลอดการเดินทาง ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
นายสุวพันธุ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ให้กับผู้ปฏิบัติงานการช่วยเหลือฯ ที่เป็นชาวต่างชาติจำนวน 114 คน คนไทย 74 คน ขณะที่ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ จะได้รับเข็มที่ระลึก ครบรอบเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 จำนวน 184 คน โดย
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และสิ่งอันเป็นที่ระลึกแก่ผู้ปฏิบัติภารกิจสำคัญที่เป็นผู้เสียสละอย่างยิ่งเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 7 กันยายนนี้ เวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี