18 ก.ย.61 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (17 ก.ย.61) โดยการอำนวยการของ นายภูษิต พรหมมาณพ ผอ.สำนักฯ นายชัยรัตน์ แสงปาน ผอ.ส่วนป้องกันฯ/ผอ.ศปก.พป.พร.-นน.และนายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.ศูนย์ป่าไม้น่าน ให้ นายมนตรี พลภักดี หน.หน่วยฯ/หน.ชปก.พป.พร.-นน.ที่ 1 และนายณัฐชนน คนสูง หน.สายตรวจปราบปรามฯ สาย 2 น่าน , ร.ต.ท.สมบัติ แกล้วกล้า ตำรวจ ศปทส.ภ.จ.น่าน ร่วมกับ จนท.-หน่วยฯ นน.13 (น้ำสา)/ชปก.พป.พร.-นน.ที่ 1 , สายตรวจปรามสาย2 น่าน , ชดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ , ตชด.324 น่าน , กก.4บก.ปทส.น่าน , ศปป.ที่ 3 ภาคเหนือ , ฝ่ายปกครอง อ.เวียงสา , ทหาร หมู่ รส.ที่ 2 ร้อย รส.ที่ 3 มทบ.38 , ทหาร ม. พัน15 ชุด รส.อ.เวียงสา,จนท.ตำรวจ ศปทส.ภ. 5 และตำรวจ ศปทส.ภ.จ.น่าน จำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้
หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ในช่วงเวลากลางคืนวันที่ 17 ก.ย.61 จะมีรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อมิตซู สีขาว ทะเบียน บธ 5329 น่าน ลักษณะเป็นรถยนต์ตอนเดียว มีลูกกรงเหล็กสแตนเลสสูงจากขอบกระบะถึงระดับหลังคาเก๋ง ของกลุ่มกระบวนการค้าและค้าไม้ชิงชันข้ามชาติ บรรทุกไม้ชิงชินแปรรูปโดยมีการปกปิดในลักษณะอำพราง วิ่งมาตามเส้นทางสายบ้านนาก้า-บ้านห้วยหลอด ไปออกถนนทางหลวงหมายเลข 101 เพื่อมุ่งหน้าไป จ.แพร่
จากนั้น จนท.ชุดดังกล่าวได้ทำการดักซุ่มรออยู่ทางของเส้นทางดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 22.20 น.ได้สังเกตเห็นรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งได้มีลักษณะตามที่ได้รับแจ้งวิ่งผ่านหน้าไป จึงได้ออกจากที่ดักซุ่มแล้วทำการไล่ติดตามโดยใช้รถยนต์ของราชการเป็นยานพาหนะ โดยเมื่อรถยนต์ของ จนท.ไล่ไปทันรถยนต์คันดังกล่าว จึงทำการเร่งความเร็วจนสามารถวิ่งแซงขึ้นไปด้านหน้าได้ และจึงได้ชะลอความเร็วของรถลงพร้อมกับโบกมือส่งสัญญาณให้รถยนต์คันดังกล่าวจอด แต่ปรากฏว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้ชะลอความเร็วของรถแล้วทำการกลับรถและขับหนีย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิมอย่างรวดเร็ว จนท.จึงได้รีบกลับรถแล้วไล่ติดตามไปด้วยความเร็ว ในระยะที่มองเห็นไฟท้ายและไฟเบรกเป็นระยะของรถยนต์คันดังกล่าว
โดยไล่ติดตามเป็นระยะทางกว่า 10 กม.จนกระทั้งถึงบ้านฮากฮาน หมู่ที่ 2 ต.หยาบหัวนา อ.เวียงสา รถยนต์คันดังกล่าวก็ได้เลี้ยวซ้ายเข้าไปในถนนซอยเส้นหนึ่งในหมู่บ้านซึ่งเป็นลักษณะซอยตัน แล้วได้จอดรถทิ้งไว้ใกล้กับบ้านหลังหนึ่งในซอยดังกล่าว จากนั้น จนท.จึงได้กระจายกำลังทำการตรวจสอบบริเวณรถยนต์คันดังกล่าวพบว่าถูกจอดทิ้งไว้พร้อมดับเครื่องยนต์พร้อมถอดลูกกุญแจออกไปด้วยโดยที่ไม่ได้ปิดกระจกทั้ง 2 ข้างและไม่มีการล้อคประตูรถแต่อย่างได จากการกระจายกำลังของ จนท.ในบริเวณรอบๆ ที่รถยนต์คันดังกล่าวได้จอดทิ้งไว้ไม่พบผู้ขับขี่ คาดว่าน่าจะหลบหนีฝ่าความมืดพร้อมกับชำนาญเส้นทางภายในหมู่บ้านเป็นอย่างดีจึงได้หลบหนีไป
จากนั้น จนท.จึงได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์ พบว่ามีผ้ายางสแลมป์สีดำคลุมกระสอบปุ๋ยบรรจุปุ๋ยคอก (มูลไก่) จำนวน 2 กระสอบ ปกคลุมปิดทับอำพรางไว้ เมื่อเปิดออกพบเป็นไม้ชิงชันแปรรูปมีลักษณะใหม่ สด ไม่มีร่องรอยว่าเคยเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือใช้อื่นใดมาก่อน ตรวจที่หน้าของไม้ทุกแผ่น/เหลี่ยม ไม่ปรากฏรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐตีประทับไว้แต่อย่างใด
จากนั้นได้ทำการตรวจสอบภายในห้องโดยสารทางตอนหน้าของรถยนต์คันดังกล่าว พบเอกสารหลักฐานอยู่ในช่องเก็บสัมภาระที่คอนโซลด้านหน้าเบาะนั่งของผู้โดยสาร พบสำเนาบัตรประจำตัวของ นายสมาน มีบุญ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 บ้านเปียงซ้อ หมู่ที่ 4 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน จำนวน 1 ฉบับ , สำเนาทะเบียนบ้านของ นายสมาน มีบุญ จำนวน 1 ฉบับ , สำเนาคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์ยี่ห้อมิตซู ทะเบียน บธ-5329 น่าน จำนวน 1 ฉบับ , ใบเสร็จรับเงินกรมขนส่งทางบก ที่ทำการ สขข.อ.ปัว เลขที่ 61/0038483 ลงวันที่ 4 มิ.ย.61 จำนวน 1 ฉบับ , ใบเสร็จรับเงินกรมขนส่งทางบก ที่ทำการ สขข.อ.ปัว เลขที่ 61/003822 ลงวันที่ 11 ก.ค.61 จำนวน1 ฉบับ , ใบแจ้งเตือนให้ชำระค่าปรับ ขของศูนย์ควบคุมสั่งการจราจร ตร.ภ.จว.แพร่ ที่ ตช.0020.7/16(ศจร.)/0737 ลงวันที่ 21 กพ.61 จำนวน 1 ฉบับ , กระเป๋าสตางค์ หนัง ยี่ห้อ U.S.ARMY 501 สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ ภายในกระเป๋าพบบัตรประจำตัวประชาชนของ นายสมาน มีบุญ จำนวน 1 บัตร , ใบอนุญาตขับขี่รถทุกประเภท ของ นายสมาน มีบุญ จำนวน 1 บัตร , บัตรประจำตัวทหารผ่านศึกนอกประจำการ ของ นายสมาน มีบุญ จำนวน 1 บัตร , บัตรกดเงิน ธนาคารออมสิน จำนวน 1 บัตร และบัตรชำระค่างวดรถของ บ.เฮง ลิสซิ่ง (สาขาปัว) ชื่อ นายสมาน มีบุญ ผู้ผ่อนชำระ จำนวน 1 บัตร
จนท.ชุดจับกุมจึงได้ทำการบันทึกภาพถ่ายในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานก่อนได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิด ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม.48 และประกาศของ คสช.ฉบับที่ 106/2557 ม.70 ฐาน มีไม้ชิงชันแปรรูปไม่ว่าจำนวนเท่าไว้ในครอยครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ , ผู้ไดรับไประการได ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยกรทำผิดต่อบทแห่งพรบ.นี้มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น
จากนั้น จนท.จึงได้ร่วมกันตรวจยึดไม้ชิงชันแปรรูปทั้งหมดเป็นไม้ของกลาง โดยใช้รูปรอยดวงตรา ต.9675 ย.1114 ปีย่อ 61 ตีประทับไว้ที่หน้าตัดทั้งสองด้านของไม้ทุกแผ่น/เหลี่ยม เป็นหลักฐานแสดงการตรวจยึดตรวจนับวัดขนาด คำนวณปริมาตร จำนวน 25 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.20 ลบ.ม.คิดเป็นค่าเสียหายรัฐ 360,000 บาท และใช้อำนาจตาม ม.64 ทวิ ตรวจยึดรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อ มิตซูบิซิ สีขขาว ทะเบียน บธ 5329 น่าน จำนวน 1 คัน ที่ใช้บรรทุกไม้ชิงชันแปรรูปของกลางทั้งหมด ไว้เป็นยานพาหนะของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด
จนกระทั่ง เวลาประมาณ 02.30 น.จนท.นำของกลางทั้งหมดที่ทำการตรวจยึด มายังหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.13 (น้ำสา) ชุดปฏิบัติการร่วมพิทักษ์ป่าพื้นที่รอยต่อจังหวัดแพร่-น่าน ที่ 1 ก่อนที่จะนำเอาเอกสารทั้งหมดพร้อมของกลางที่ทำการตรวจยึดส่งต่อ ร.ต.อ.ปิยะพงษ์ กัญชนะ พงส.สภ.เวียงสา เพื่อเร่งติดตามหาตัวผู้ที่กระทำผิดเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี