“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำและเลือกที่จะเป็นได้”
อีกหนึ่งภารกิจ ของสำ นักงาน กศน.กับการจัดการศึกษาแก่เด็กและเยาชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากเมืองหลวงกว่า800 กิโลเมตร และที่สำคัญ พวกเขาอยู่กลางทะเลอันดามัน!!!เราเรียกพวกเขาว่า “ชาวไทยมอแกน”
คงยังจำกันได้ดี เมื่อกว่าสิบปีก่อน กับอุบัติภัยครั้งใหญ่ ที่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์"สึนามิ" ซึ่งเป็นเสมือนฝันร้าย เป็นจุดจบของพี่น้องชาวฝั่งอันดามันหลายครอบครัว แต่อีกส่วนหนึ่งก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยเฉพาะชาวเผ่า "มอแกน" ซึ่งแม้จะเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณหาดอ่าวบอนใหญ่ หมู่เกาะสุรินทร์ใต้ จ.พังงา และมีประชากรเพียงประมาณ 300 คน แต่ด้วยวิถีชีวิตที่หากินอยู่กับทะเล และรู้จักธรรมชาติแห่งท้องทะเลเป็นอย่างดี ทำให้ชีวิตของพี่น้องชนเผ่า รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเยือน รอดพ้นปลดภัยจากภัยพิบัติ "สึนามิ" ได้เพราะทันทีที่น้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็ว นั่นคือสัญญาณบอกเหตุของชาวมอแกนที่เล่าขานมากันตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ว่า จะต้องรีบวิ่งขึ้นเขาอย่างรวดเร็ว วิถีชีวิตของชาว "มอแกน" จึงถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางอีกครั้ง นอกเหนือจากเป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เหมือนที่ผ่านๆ มา
จากชาวประมงพเนจรในทะเลอันดามัน อาศัยเรือ“ก่าบาง”เป็นเรือนนอน หลบไอแดด บังลมฝน รอนแรม
หาเลี้ยงชีพกลางผืนน้ำ ผืนผ้า สู่ชุมชนชาว“มอแกน” บนหมู่เกาะสุรินทร์ อ.คุระบุรี จ.พังงา ชนเผ่าทางทะเล ที่มีภาษา ความเชื่อและวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ผู้ที่ได้รับพระราชทานนามสกุลจากสมเด็จ ย่า ชาวมอแกนทุกคนมีนามสกุลเดียวกัน คือ “กล้าทะเล” ด้วยความเป็นอยู่ที่ขาดโอกาสขาดการมีส่วนร่วม การไม่มีแบบแผนการพัฒนาคุณภาพการดำรงชีวิตกลัวการดูถูกดูแคลน พวกเขาขาดโอกาสทางการศึกษาและมีปัญหาด้านสุขอนามัย ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบันสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดพระเนตรเห็นปัญหาเหล่านี้ และทรงให้จัดตั้ง “ศูนย์การเรียนชุมชนชาวมอแกน” ขึ้นเมื่อปี2548เช่นเดียวกับโครงการที่ก่อตั้งให้แก่เด็กชาวเขาบนดอยสูง เมื่อปี2539 พระองค์ยังทรงรับสั่งด้วยว่า “กศน.ต้องจัดหลักสูตรเฉพาะให้ชาวมอแกนโดยบูรณาการวิชาการกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ วัฒนธรรม สุขอนามัย เข้าด้วยกัน แต่ที่สำคัญต้องทำให้ชาวมอแกนอ่านออกเขียนได้ด้วย นอกจากนี้จะต้องให้ชุมชนเข้ามาช่วยคิดและทำเอง เพื่อชุมชนจะได้เข้มแข็ง”
ด้วยบทบาท หน้าที่ และภารกิจของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) ที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งแก่ผู้ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา และจัดการศึกษาให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่มีสภาพความต้องการพิเศษ และมีปัญหาพิเศษแตกต่างจากกลุ่มเป้าหมายทั่วไป“ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยมอแกน”มีการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชนชาวมอแกน เพื่อให้ความรู้แก่เด็กที่สื่อสารกันเป็นภาษามอแกนให้สามารถใช้ภาษาไทย ทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน และเข้าสู่การเรียนการสอนในระบบโรงเรียนและปรับสภาพการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ วัฒนธรรม การดำเนินชีวิต สอนให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเอง คิดเป็น ทำเป็น กล้าแสดงออก สอนความรู้พื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ระบบการสอนแบบพี่สอนน้องการสร้างสภาพแวดล้อมในการเรียนให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียน อุปกรณ์การเรียน และสื่อการเรียนการสอน
ครูผู้สอนเล่าให้ฟังว่า "ที่นี่กันดารทุกอย่าง ไม่สามารถสื่อสาร โทรศัพท์ติดต่อกับภายนอกได้ โดยเฉพาะช่วงมรสุมต้องติดเกาะนานกว่าครึ่งปี บางครั้งเปิดวิทยุฟังเพลงก็เป็นเพลงพม่า แม้จะฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ถือเป็นการจรรโลงใจไปอีกแบบหนึ่ง และนอกจากว่าครูทำหน้าที่สอนหนังสือให้กับเด็กๆ ชาวมอแกนแล้ว ครูยังต้องรับหน้าที่ทั้งทำอาหาร ช่างตัดผม กรรมการคอยหย่าศึกทะเลาะกันของครอบครัว หรือแม้แต่ทำหน้าที่แทนผู้ใหญ่บ้านเมื่อชาวมอแกนป่วยหนักตอนตี2 แม้จะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ก็ขอไปเป็นกำลังใจก็ยังดีหลักสูตรที่ใช้สอนเด็กๆคือหลักสูตรสำหรับชนกลุ่มน้อย บูรณาการกับวิชาอื่นๆ ปรับไปตามสภาพการเรียนการสอน ซึ่งในช่วงเปิดเกาะนักท่องเที่ยวจะเข้ามาที่หมู่บ้านมอแกนจำนวนมาก ก็ต้องปรับวิธีเรียน แทนที่จะนั่งเรียนในห้องเรียนอย่างเดียวก็
ออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง เสริมเรื่องนันทนาการเข้าไป ให้เด็กได้ร้องเพลง แสดงออก วาดรูป และอาจเพิ่มเติม
เรื่องบำเพ็ญประโยชน์พาเขาเดินเก็บขยะรอบเกาะ สอนเขาให้รู้ว่าขยะมาจากไหน เราต้องดูแลรักษาเกาะอย่างไร
แม้ว่าขยะที่เกิดขึ้นจะไม่ได้เกิดจากพวกเขา แต่ทุกคนต้องช่วยกันดูแลรักษา ซึ่งเราต้องสอดแทรกเรื่องเหล่านี้ด้วย"
นอกจากการจัดการเรียนการสอนการสื่อสารภาษาไทยและความรู้พื้นฐานแล้ว กศน. ยังน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาใช้ในการสอนทำการเกษตรแบบวิถีพอเพียง การฝึกอาชีพ ให้สามารถพึ่งพาตนเองเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว การสร้างตัวเองให้เป็นชุมชนเข้มแข็งตามวิถีชีวิตชาวมอแกน สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองได้โดยไม่ต้องละทิ้งวัฒนธรรมดั้งเดิม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหัวใจสำคัญ และถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของ สำนักงาน กศน.ที่มุ่งเน้น และพัฒนาคุณภาพทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเด็กๆมอแกนเหล่านี้สามารถใช้ภาษไทยเป็นภาษาที่2 มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ทีดีขึ้น สามารถช่วยเหลือและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
โอกาสคือสิ่งที่เราสามารถสร้างให้แก่ตัวเรา และสามารถสร้างให้แก่ผู้อื่นได้เช่นกัน โดยเฉพาะโอกาสทางการศึกษา ทุกตารางนิ้วบนผืนแผ่นดินไทยทุกๆคนควรได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน“ความรู้คือขุมทรัพย์ สติปัญญาคือเสบียง และทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นครูได้เสมอ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี