รวบ‘หนานหนัด’พี่ชายใจอำมหิต ฆ่าทุบหัว‘น้องสาว-ผัวฝรั่ง’ฝังดิน
ความคืบหน้าคดีการหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำของนางหน็อต สุดแดน อายุ 61 ปี และนายอลัน สกอลท์ ฮ็อก อายุ 64 ปี สามีชาวอังกฤษ จากบ้านเลขที่ 207/4 หมู่ 6 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ พร้อมรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ทะเบียน กต 3181 แพร่ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมตัวคนร้าย 3 คน จากอ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่ลงมือสังหารสองผัวเมียได้แล้ว พร้อมกับให้การรับสารภาพว่า แท้จริงแล้วนายวารุต วัฒนะสัจจะกิจ หรือ หนานหนัด พี่ชายนางหน็อต เป็นคนจ้างให้มาฆ่าน้องสาวและน้องเขยฝรั่งของตัวเองในราคา 50,000 บาท
จากการสอบสวนคนร้าย รับสารภาพว่าใช้อาวุธปืนยิงสามีฝรั่ง ที่บริเวณหน้าเล้าเป็ดในสวนนั่นเอง ส่วนภรรยา คนร้ายได้ใช้ฆ้อนทุบจนเสียชีวิตหน้าโรงรถ ส่วนศพนั้น มือฆ่าทั้งสามคนเผยว่า เป็นหน้าที่ของคนจ้างวาน ให้มาฆ่าจะเป็นคนเก็บศพเอง และล่าสุดทราบว่าศพถูกฝังในสวนนั่นเอง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาชายทั้ง 3 คน ไปชี้จุดที่ฝังศพสองสามีภรรยา ซึ่งพบว่าเป็นจุดเดียวกับที่ขุดค้นหาวันแรกแต่ไม่พบ เนื่องจากมีการขุดลึกลงไปเกือบ 2 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างชันสูตรพลิกศพ
ล่าสุดมีรายงานตำรวจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายวารุต พี่ชายนางหน็อต มาสอบสวนถึงชนวนเหตุในการจ้างวานฆ่าน้องสาวตัวเองและน้องเขยชาวอังกฤษแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.มนัส เกิดสุขโข ผกก.สส.ภ.จว.แพร่ และตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.แพร่ ได้รับการประสานงานจากพล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาว่า ให้ไปรับรถฟอร์ด กระบะสีประตู สีขาว ทะเบียน 3181 แพร่ ซึ่งมีพ่อค้ารถชาวลาวได้นำมาส่งมอบให้ หลังอ่านพบข่าวว่าเป็นรถของสามีชาวต่างชาติและภรรยาชาวไทยที่หายตัวไปอย่างลึกลับ โดยพ่อค้ารถหวั่นมีความผิด โดยเจ้าหน้าที่นำรถกลับมาไว้ที่สภ.พระธาตุช่อแฮ
จากนั้นเวลา 09.00 น.พ.ต.ท.(ญ.)ภานุชนารถ จำนงเทียน สว.วิทยาการ ภ.จว.แพร่ ได้นำกำลังพิสูจน์หลักฐานภ.จว.แพร่ มาทำการตรวจสอบและเก็บดีเอ็นเอ ภายในรถกระบะอย่างละเอียดและยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่าได้พบอะไรในรถคันนี้บ้างนั้นจากนั้นได้นำรถไปตรวจสอบที่วิทยาการภ.จว.แพร่ และเก็บรักษารถไว้
ขณะดียวกัน พล.ต.ต.สรรภัทร ปรายพุฒซา ผบก.ภ.จว.แพร่ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ทองสุข จรัสพงศ์ รองผบก.ภ.จว.แพร่ เข้าร่วมสอบผู้ต้องสงสัยและมีส่วนเกี่ยวข้องในเส้นทางการเดินรถ โดยแบ่งสายการทำงานและติดตามกลุ่มบุคคลที่ตรวจสอบ พบว่ามี 2 ราย จึงให้ตำรวจไปเชิญตัวมาที่ สภ.พระธาตุช่อแฮ ประกอบด้วยนายธีรพล หรือ ตู่ สืบจากถิ่น อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 55/2 หมู่ 3 ต.บ้านถิ่น อ.เมือง จ.แพร่ และ นายประสิทธิ์ ถิ่นสุข อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 187/1 หมู่ 1 ต.บ้านถิ่น อ.เมือง จ.แพร่ โดยตำรวจได้แยกกันสอบเครียดทั้งสองคนและตำรวจยังไม่ได้เปิดเผยผลการสอบสวน
ขณะเดียวกัน นางหอม สืบจากถิ่น อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 5555/2 หมู่ 3 ต.บ้านถิ่น อ.เมือง จ.แพร่ ผู้เป็นแม่ของนายธีระพล เป็นห่วงลูกชายได้เดินทางมาที่ สภ.พระธาตุช่อแฮ พร้อมเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย.61 ขณะที่ตนและลูกชายเปิดร้านขายของเก่าที่หน้าสำนักสงฆ์วัดพระธาตุช่อแฮ ได้มีนายวารุต วัฒนะสัจจะกิจ หรือ หนานหนัด พี่ชายนางหน็อต มาจ้างลูกชายขับรถ 3,000 บาท ส่วนตนได้ห้ามไว้ โดยขับรถไปกับนายประสิทธิ์ ถิ่นสุข และเมื่อวานนายวารุต ได้มาที่บ้านบอกตนว่า หากตำรวจมาสอบถึงนายตู่ลูกชายให้บอกว่าวันที่ 19 ก.ย.61 นายตู่อยู่ที่บ้าน แต่ตนได้บอกความจริงกับตำรวจไปแล้ว
ส่วนนางสมถวิล จุมพิต อายุ 52 ภรรยาของนายประสิทธิ์ ถิ่นสุข เล่าว่า เมื่อเช้าวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา นายธีรพล และสามีตน ได้นำรถมาแวะที่ร้านรับซื้อไม้เก่าของตนเอง ซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแพร่ จำกัด เดิมเป็นร้านอาหารอีสานรสแซ่บ จากนั้นนายธีรพลและสามีก็นำรถออจากหน้าร้านไป ตนไม่รู้ว่าว่า สามีและนายธีรพลนำรถไปที่ใด เมื่อเช้าวันที่ 23 ก.ย.61 หนานหนัดไปที่บ้านให้ตนทำตัว ไม่รู้เรื่อง หากมีตำรวจมาสอบอะไร
สำหรับผู้ต้องสงสัยที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของสามีภรรยานั้น ขณะนี้ตำรวจได้ประกบตัวอย่างใกล้ชิดหวั่นว่าจะหลบหนีขณะนี้ หลักฐานๆต่างๆโยงมาถึง ผู้บงการเกือบครบแล้ว เมื่อหลักฐานครบถ้วน จากนั้นได้ทำการติดตามตัว ขบวนการซื้อขายรถคันดังกล่าว โดยการติดตามขบวนการนี้ มีการนำรถไปขายให้กับกลุ่มชาวเขาที่รับซื้อของโจรที่จ.ลำพูนในราคา 200,000 บาท
ต่อมาแก๊งชาวเขานี้เอารถคันนี้ไปขายต่อให้พ่อค้าชาวลาว ในราคา 420,000 บาท แต่หลังจากมีข่าว พ่อค้าชาวลาวที่ซื้อก็กลัวความผิด ได้นำรถคันดังกล่าวไปให้ตำรวจที่จังหวัดอยุธยา จากนั้นก็สามารถนำรถกลับและรวบตัวขบวนการทั้งหมดได้ถึง 8 คน มาควบคุมตัวไว้ที่ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี