เมื่อปลายปี 2566 พรรคก้าวไกลเปิดรับสมัครผู้ลงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) พร้อมสมาชิกสภาจังหวัด (ส.อบจ.) รอบแรกจำนวน 16 จังหวัด ส่วนจังหวัดอื่นๆ จะทยอยเปิดรับสมัครในรอบถัดไป
โดยทั้งนายก อบจ.และสมาชิกสภาจะครบวาระ 4 ปีทั่วประเทศ 76 จังหวัดในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ภายใน 45 วันตามที่กฎหมายกำหนด คือไม่เกินวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568
ในภาพกว้างการเลือกตั้งสนามท้องถิ่น มีพรรคการเมืองหลัก ที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครอย่างเป็นทางการ เท่าที่ทราบมีเพียง 2 พรรคเท่านั้น คือ 1.ก้าวไกล 2.เพื่อไทย นอกจากยังไม่ขยับ คาดกำลังคัดเลือกตัวผู้สมัครอยู่
ในส่วน จ.นครพนม นายก อบจ.คนปัจจุบันคือ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือ น้องขวัญ เป็นเจ้าของตำแหน่ง ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นเวทีป้องกันแชมป์แน่นอน โดยผู้ท้าชิงในเวลานี้ มีเพียงผู้เดียว คือ นายอนุชิต หงษาดี หรือ "นายกเบียร์" นายก อบต.โพนสวรรค์ ขุนพลช้างศึกคนสำคัญของ ดร.เดือน-มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย โดยเมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทางพรรคเพื่อไทยได้ประกาศชื่อเป็นคาดิเดตในการลงชิงนายก อบจ.นครพนม ปี 2568 นี้ ในขณะที่พรรคอื่นยังนิ่ง โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลที่หลายคนจับจ้องว่า จะส่งใครลงสมัครนายก อบจ.นครพนม ก็ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนจากกรมการบริหารพรรค
อย่างที่ทราบกันว่าพรรคก้าวไกลผงาดขึ้นอันดับหนึ่ง ในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศปี 2566 เพราะได้ ส.ส.มากถึง 151 คน รองลงมาเป็นพรรคเพื่อไทย 141 คนทำให้นักเลือกตั้งหันสปอร์ตไลท์ไปพรรคนี้จำนวนมาก
ในส่วนของ จ.นครพนม ก้าวไกลมีสมาชิกพรรคเดิมอยู่แล้วก็คืออดีตผู้สมัคร ส.ส.ปี 2566 หลังก้าวไกลได้คะแนนจากประชาชนท่วมท้น ชนิดหักปากกาเซียน แม้จะไม่สมหวังในตอนโหวตนายกรัฐมนตรี นักเลือกตั้งในพื้นที่ก็แห่มาอยู่พรรคนี้เยอะ แต่ยังกระมิดกระเมี้ยนไม่กล้าเปิดตัวเต็มที่
อาทิ ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม ลูกผู้ชายตัวจริง ทนเสียงรบเร้าของลูกน้องคนสนิทไม่ได้ก็มาซบอยู่พรรคนี้เรียบร้อยแล้ว แม้โลดแล่นบนถนนการเมืองก็ไม่ได้ประกาศเป็นคาดิเดตนายก อบจ.ฯ แต่ที่ทำให้เกินความคาดหมายน่าจะเป็นกรณี "คุณหมอผู้มีแต่ให้" นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ นักการเมืองอาวุโส ดีกรี รัฐมนตรีหลายกระทรวง และ ส.ส.นครพนม 13 สมัยมีชื่อโผล่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล หลังไปได้คาถามหาระรวยจากสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือสมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรฯ กทม. ก็ออกเดินสายหาเสียงตุนคะแนน อ้อนชาวบ้านขอเป็นนายก อบจ.นครพนมในวัยใกล้ 90 ปี
ต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อสงสัยว่า คุณหมอสงค์สะสมบารมีไว้เยอะ คาดได้เช็คสรรพกำลังแล้วมีโอกาสสูง จึงกล้าท้าชนคนหนุ่มคนสาวรุ่นหลานชิงเก้าอี้ตัวนี้ แต่สิ่งที่หลายคนข้องใจคือ รู้ทั้งรู้ว่า ดร.เดือน-มนพร เจริญศรี ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของหมอสงค์ ประกาศส่งนายกเบียร์ สู้ศึกกับแชมป์เก่าแล้ว ทำไมหมอสงค์ ถึงแหกกำแพงสัมพันธ์นี้เสียเล่า แม้คุณหมอยืนยันมาตลอดว่า ไม่มีเรื่องขัดแย้งกับลูกสาว เพียงแค่อยากเป็นนายกฯกับเขาสักครั้ง รัฐมนตรีหรือ ส.ส.ก็เป็นมาหมดแล้ว เหลือนายก อบจ.ฯ นี่แหละ
ทางด้าน ดร.เดือน มนพร กล่าวว่า คุณพ่อมีความคิดเป็นของตนเอง เคารพในการตัดสินใจ จะไม่ขอก้าวก่าย ปกติโทรคุยกับคุณพ่อประจำ แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องการเมือง
ส่วน นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ถึงแม้ไม่ได้เปิดตัวเต็มที่ว่า ลงสมัครชิงนายก อบจ.นครพนม ในนามพรรคก้าวไกล แต่ก็เกริ่นเป็นนัยๆ อาจจะสวมเสื้อสีส้ม ซึ่งเรื่องนี้ ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายกฯ บอกกับเพื่อนในแวดวงการเมืองว่า หากคุณหมอลงนายก อบจ.ฯ จริง ตนจะยอมลดชั้นเป็นรองนายกฯ เพราะคุณหมอ มีพระคุณต่อตน ทั้งยังเป็นการขจัดปัญหาช่วงชิงคะแนนกันเอง เพราะได้บทเรียนจากพรรคเพื่อไทย ครั้งส่งผู้สมัคร ส.ส.ปี 66 ทับซ้อนกันเอง สุดท้ายตาอยู่คว้าพุงปลาไปกิน
เดิมทีการต่อสู้ในสนาม อบจ.นครพนม คาดการณ์น่าจะมีแค่ 3 กลุ่มเท่านั้น คือ 1.ทีมนายกขวัญ กลุ่มนครพนมร่วมใจ 2.ทีมนายกเบียร์ กลุ่มฮักนครพนม และ 3.ทีมคุณหมอประสงค์ ซึ่งยังไม่ได้ตั้งชื่อกลุ่ม จู่ๆนายโกศล เหมพลชม ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ประกาศโต้งๆ ว่าเป็นแคนดิเดตชิงนายก อบจ.นครพนม จึงเกิดคำถามขึ้นมาทันที ใครคือตัวจริงที่ก้าวไกลเคาะชื่อกันแน่ ทั้งหมอสงค์ และนายโกศล แต่เท่าที่ทราบทางกรรมการบริหารพรรคยังไม่เลือกผู้หนึ่งผู้ใดเป็นแคนดิเดต ประกอบกับผู้ดูแลสมาชิกพรรคในพื้นที่นครพนม ไม่ถึงขั้นยืนยันแต่พูดว่า พื้นที่นครพนมก้าวไกลขอเกียร์ว่าง ไม่ส่งใครลงชิงนายก อบจ.นครพนม ส่วนในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ณ เวลานี้ยังตอบไม่ได้
ทางด้าน น้องขวัญ-นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม คนปัจจุบันก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งแล้วยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ายังมีความสุขอยู่กับงานที่ทำให้ประชาชน อีกทั้งการมีคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง ถือเป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย สุดท้ายประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง
จังหวัดนครพนม มีจำนวนประชากร ประมาณ 716,647 คน (สถิติปี 2565) มี 12 อำเภอ 99 ตำบล 1,130 หมู่บ้าน วิเคราะห์สนามเลือกตั้ง คู่ชิงที่ชัดเจนแน่นอน มีเพียงกลุ่มนครพนมร่วมใจ น้องขวัญเป็นผู้ถือธงนำ กับกลุ่มฮักนครพนมของนายกเบียร์ ส่วนรายอื่นๆ เหมือนเป็นการหยั่งเชิงเอาเท้าจุ่มน้ำ โหมโรงวัดกระแสนิยม หากคะแนนไม่เป็นที่พอใจคงจะล่าถอยไปเอง ขณะที่นายกขวัญนั่งตีขิมสบายใจ รอชมหน้าตาทีมผู้ท้าชิงหรือพรรคไหนจะส่งเข้าประกวดบ้าง
ทั้งนี้ การเลือกตั้งนายก อบจ.มีประชาชนเข้าคูหากาบาทเลือกทั้งจังหวัด ไม่เหมือนเลือกตั้ง ส.ส.ที่แบ่งเป็นเขตๆ คะแนนส่วนหนึ่งมาจากความนิยมในตัวผู้สมัคร และมีคะแนนพรรคสมทบ ดังนั้นถ้าฐานเสียงไม่ปั๋งจริง ผู้สมัครรายนั้นคงเป็นได้แค่ผู้สร้างสีสันหรือไม้ประดับเท่านั้น
สำหรับสถิติการเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนม ปี 2563 ที่ผ่านมา มีผู้สมัครทั้งหมด 5 คน เรียงลำดับคะแนนจากมากไปหาน้อย 1.นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ 161,962 คะแนน 2.ดร.สมชอบ นิติพจน์ 110,580 คะแนน 3.นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ 49,983 คะแนน 4.นายเฉลิมชัย ทิศแดง 5,783 คะแนน และ 5.นายจุมพล วงศ์กาฬสินธุ์ 633 คะแนน
ทั้งนี้ การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 โดยนายก อบจ.มีวาระคราวละ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้ ในกรณีอยู่ไม่ครบ 4 ปีก็ให้ถือว่าเป็น 1 วาระ และเมื่อได้ดำรงตำแหน่ง 2 วาระติดต่อกันแล้ว จะกลับมาสมัครเป็นนายกฯ ได้อีก เมื่อพ้นระยะเวลา 4 ปีนับแต่วันพ้นตำแหน่ง ส่วน ส.อบจ.มีกำหนดคราวละ 4 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง และไม่ต้องเว้นวรรคทางการเมือง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี