ดีเดย์กันไปแล้ว เมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมากับโครงการลดใช้ถุงพลาสติกในโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยให้ผู้ป่วยนำถุงผ้ามาเอง ใส่ยากลับบ้าน บังเอิญมีโอกาสได้ไปสังเกตการณ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เห็นชาวบ้านที่มาหาหมอ ก็ดูจะงงๆ บ้าง เภสัชกร ที่จัดแจกยาต้องอธิบายคลายข้อสงสัยบางแห่งอาจจัดเตรียมถุงผ้าสำรอง จากการที่คนทั่วไปบริจาคมาใส่ยากลับไปให้แทน และกำชับต่อไปให้นำมาด้วยทุกครั้ง ซึ่งก็พอเข้าใจได้ การเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ปฏิบัติมานาน ต้องให้เวลาปรับตัว เพียงต้องผลักดันจริงจัง ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติก เป็นกระแสที่จุดติดแน่นอน เพราะระยะหลัง เห็นหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐเอกชน ตอบรับนโยบายรัฐบาลมากขึ้น แบบว่า ใครลด ละ เลิกใช้พลาสติกได้ด้วยวิธีไหนก็ทำกันไป เช่นเดียวกับคนทั่วไป มีการเปลี่ยนพฤติกรรมลดใช้ภาชนะที่ทำจากพลาสติกมีให้เห็นมากขึ้น อย่างการนำแก้วไปซื้อกาแฟ หรือพกขวดน้ำประจำตัว รวมถึงการใช้กล่องบรรจุอาหารแทนซื้อใส่ถุงพลาสติกกลับบ้าน
การเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คนในสังคมกันบ้างแล้ว ถือเป็นนิมิตหมายอันดี จะเป็นไปได้หรือไม่ เมื่อทัศนคติการรับรู้ของคนในสังคมเริ่มตอบรับแนวทางลดโลกร้อน ลดขยะพลาสติก รัฐบาลควรฉวยจังหวะนี้ขยายผล จากถุง ถ้วยชามพลาสติก ไปเป็นเครื่องใช้อื่นในชีวิตประจำวัน ซึ่งที่จริงไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ อย่าง “หลอดดูดน้ำ” ซึ่งหลายคนคงไม่ทราบ หลอดชิ้นเล็กๆ เป็นขยะตกค้างที่เกิดขึ้นเร็วมาก กระจัดกระจายไปสร้างปัญหาได้ไกล ใช้เวลาย่อยสลายเป็นร้อยปีเหมือนกัน เพราะคนคนหนึ่งใช้หลอดเพียงแค่ 5-10 นาทีก็ทิ้งแล้ว
จากข้อมูลมูลนิธิโลกสีเขียว ระบุ ไทยติดอันดับ 5 ของประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุด ที่น่าสนใจคือ เป็นขยะจากหลอดพลาสติก และสถิติยังพบจำนวนหลอดพลาสติกที่ถูกทิ้งเป็นขยะลงทะเล อยู่ที่ 513 ล้านตัน จาก 20 ประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากการศึกษาของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานการจำแนกขยะในทะเลไทย ซึ่งน่าตกใจคือ หลอดพลาสติกถูกพบมากเป็นอันดับ 2 รองจากขยะถุงพลาสติก ดังนั้น น่าเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆอีกครั้ง ที่ขับเคลื่อนไปพร้อมกับขยะพลาสติกประเภทอื่น เพราะใครจะคิดว่าแค่หลอดดูดน้ำชิ้นเดียว ต่างคนต่างทิ้ง กลับมาสร้างปัญหายิ่งใหญ่ให้ทุกคนบนโลกดังนั้น หากเราแต่ละคนตระหนักจุดนี้ ลด เลิกใช้หลอด หันมาดื่มน้ำโดยตรงจากแก้ว ก็สามารถช่วยลดปัญหาได้ไม่มากก็น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติมที่มูลนิธิโลกสีเขียวเผยแพร่ต่อสาธารณะ ชี้ว่า หากต้องการลดปัญหาขยะพลาสติกล้นโลกเราแต่ละคนแค่ลดใช้พลาสติก 6 อย่างชนิดบอกลากันไปได้เลยก็จะดี เริ่มจาก“ซ้อมพลาสติก” ที่ใช้แค่แป๊บเดียวเหมือนหลอดแล้วก็ทิ้ง เพียงแค่หันมาพกช้อน-ส้อม น่าจะช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกทาง
ลำดับถัดมา “ขวดน้ำพลาสติก” สัดส่วนก่อให้เกิดขยะมากถึง 90% แถมฝาพลาสติกชิ้นเล็ก กลับกลายเป็นขยะกองมหึมาได้อย่างคาดไม่ถึง แค่พกกระติกหรือขวดน้ำพกพาจะดีกว่า ตามมาด้วย
“แก้วพลาสติก” ที่ย่อยสลายยากมาก ถ้าเปลี่ยนเป็นน้ำแก้วเก็บความร้อนความเย็นสักใบติดตัว น่าจะลดขยะประเภทนี้ได้โข
ถัดมา เป็น “ถุงพลาสติก” หรือถุงก๊อบแก็บ พระเอกนางเอกของปัญหา เพราะทุกการจับจ่ายใช้สอยต้องมีเจ้าถุงหิ้วถูกทิ้งหลุดรอดไปอุดตันท่อน้ำ ปะปนบนดิน แม่น้ำ ทะเล สร้างความสูญเสียปรากฏเป็นข่าวบ่อยที่สุด ...สุดท้ายคือ “ภาชนะบรรจุอาหาร” จากไลฟ์สไตล์คนทุกวันนี้ที่เปลี่ยนไป อาหารสารพัดเมนู แค่โทรสั่งก็เสิร์ฟถึงที่ ทำเอากล่องโฟม ถาดใส่อาหารเกลื่อนโลกในพริบตาเหมือนกัน แต่ถ้าลองหันมาใช้ปิ่นโต กล่องใส่อาหารหรือพลาสติกย่อยสลายได้ แทนใส่ถุงพลาสติกกลับบ้านน่าจะเป็นอีกทางลดภาระโลก
การมีส่วนร่วมลดปัญหามลพิษ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ชีวิต น่าจะช่วยโครงการรณรงค์ลดใช้พลาสติกเดินหน้าต่อไปได้และเกิดผลยั่งยืน ช่วงนี้การปลุกกระแสลดใช้ถุงพลาสติกเริ่มมีเสียงตอบรับ เลยอยากให้พ่วงกรลด ละ เลิกใช้ “หลอด” ไปด้วย เพราะเป็นพลาสติกชิ้นเล็กๆ ที่คนยังไม่ค่อยได้พูดถึง แต่ก่อมลพิษไม่แพ้พลาสติกชิ้นใหญ่ ฉะนั้น ใครเข้าร้านค้าร้านสะดวกซื้อครั้งต่อไป นอกจากปฏิเสธไม่รับถุงแล้ว ช่วยพ่วงหลอดไปอีกสักชิ้นก็จะดีต่ออนาคตโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี