ชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดกาฬสินธุ์แฉ โดนอมเงินค่าแรงผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 คนละ 100,000/ปี ด้วยวิธีให้เปิดบัญชีทำงาน จากนั้นเก็บบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีก่อนจ่ายให้รายเดือนแค่คนละ 2,000-4,000 บาท ขณะที่เงินหลวงเข้าจริงเกือบหมื่นบาท ถูกอมมาแล้วเกือบ 2 ปี เชื่อมีขบวนการสูบเลือดคนพิการแฝงในระดับชมรมถึงระดับสูง เรียกร้องเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
11 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการประสานจากเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ว่าได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ปกครองเด็กพิการ กรณีชมรมคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ไม่จ่ายค่าแรงผู้ดูแลคนพิการ ที่เข้าโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 ตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ ระบุพบพิรุธหลายอย่าง ทั้งยึดสมุดเงินฝาก บัตรเอทีเอ็ม ยักยอกไม่จ่ายเต็มตามสัญญา กระทั่งนำไปสู่การร้องเรียนเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ (สำนักงานใหญ่)
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นางฐานิดา อนุอัน อายุ 46 ปี ผู้ร้องเรียน ทราบว่าเมื่อต้นปี 60 ตนได้รับการชักชวนจากเครือข่ายชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ให้ไปสมัครเข้าร่วมโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 ของชมรมฯ เนื่องจากลูกสาว คือ น.ส.อี๊ฟ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี มีความพิการทางสติปัญญา โดยสมองมีการพัฒนาล่าช้าอ่อนกว่าวัย 5 ปี ทั้งนี้ ได้ร่วมกับผู้ปกครองเด็กพิการจากหลายตำบลจำนวน 10 คน จับกลุ่มเข้าไปยื่นเอกสารสมัครกับชมรมคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์
นางฐานิดา กล่าวว่า ตอนที่ไปสมัครนั้นไม่ได้อ่านเอกสารสัญญาละเอียดนัก และก่อนเซ็นสัญญาก็ไม่ทราบความชัดเจนในเรื่องของค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าหน้าที่ชมรมแนะนำให้ผู้ปกครองที่เข้าร่วมในโครงการจ้างเหมาบริการ ไปเปิดบัญชีและทำบัตรเอทีเอ็ม กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซีกาฬสินธุ์ แล้วสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มนำมาเก็บไว้ที่ชมรม หลายเดือนต่อมาจึงได้รับแจ้งให้ไปรับค่าจ้างที่ชมรม โดยได้รับเป็นเงินสดบางครั้ง 2,000 บาท บางครั้ง 4,000 บาท รวมยอดที่ได้รับ 18,000 บาท
"ช่วงที่มีกระแสข่าวโกงเงินคนจนทั่วประเทศ ตนสงสัยว่าจะถูกโกงในลักษณะเดียวกัน จึงไปขอสมุดเงินฝากกับบัตรเอทีเอ็มคืนจากชมรม แต่ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่และประธานชมรม จึงไปติดต่อขอรายการเดินบัญชีเงินฝากกับทางธนาคารฯ จึงได้พบหลักฐานว่ามีเงินเข้าบัญชี 3 ครั้ง ในเดือนมกราคม, เมษายน และ กรกฎาคม เดือนละ 27,375 บาท รวม 82,125 บาท แต่ที่ผ่านมาตนได้รับเป็นเงินสดจากชมรมเพียง 18,000 บาท ขาดไป 64,125 บาท จึงเชื่อว่าถูกโกงค่าแรง"
นางฐานิดากล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อพบพิรุธดังกล่าว จึงร้องเรียนไปที่เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ (สำนักงานใหญ่) จึงทราบรายละเอียดว่าโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 นั้น เป็นไปตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มีสัญญา 1 ปี ซึ่งผู้ปกครองที่เข้าร่วมโครงการจะมีหน้าที่ดูแลเด็กพิการทั้งลูกของตนเองและลูกคนอื่นด้วย นอกจากนี้ยังเข้าร่วมกิจกรรมที่ชมรมจัดขึ้น รวมทั้งมีการอบรมอาชีพด้วย โดยจะได้รับค่าแรง 9,125 บาทต่อเดือน จบโครงการรวมค่าแรง 109,500 บาท
"เมื่อเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งเป็นการทุจริตโกงเงินค่าแรงตามมาตร 35 จึงเรียกร้องภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งตรวจสอบหาผู้กระทำผิดมาลงโทษด้วย เพราะเชื่อว่าทำเป็นขบวนการ มีผู้ปกครองคนพิการที่ตกเป็นเหยื่อ และถูกโกงเงินค่าแรงอีกเป็นจำนวนมาก" นางฐานิดากล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี