“ศรีวราห์”สอบเครียด 2 มือยิงหมีขอป่าไทรโยค “ตาตา”ลากไส้“อส.ออย”กับพวกอ้างเป็นตร.บังคับยิง พร้อมรับตัดหัวหมีทิ้งน้ำ-กรามให้สุนัขกิน สั่งล่ากะเหรี่ยงอีกคน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ต.ค. 61 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) สั่งการให้พล.ต.ต.รีธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทนตำรวจภูธรภาค 7 และพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยค คุมตัว นายตาตา อายุ 41 ปี ชาวเมียนมา และ นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือออย อาสาสมัครรักษาดินแดน ผู้ต้องหาคดียิงหมีขอมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สำนักงานตรำวจแห่งชาติ
โดยคดีนี้พนักงานสอบสวน ได้สรุปพฤติการณ์กระทำความผิดของผู้ต้องหากลุ่มที่ยิงหมีขอ ประกอบด้วย นายตาต้า นายอนุสรณ์ และ นายสกานต์ แก่นหลวง ส่วนกลุ่มที่ร่วมกันชำแหละซากหมี คือ นายเจนระ หรือ จีระ ไม่ทราบนามสกุลชาวเมียนมา ซึ่งยังหลบหนี และนางสาวคิน หน่อยโซ ภรรยา นายเจนระ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าร่วมกันชำแหละหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีการทำแผนผังกลุ่มผู้ต้องหา รวม 10 คน ที่อยู่ในขบวนออฟโรด รวมทั้ง นายวัชรชัย สมีรัก หรือ ปลัดแมน อดีตปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย
โดยนายตาต้า ซักทอดว่า นายอนุสรณ์ กับ นายสกานต์ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอให้ตนไปยิงหมีขอที่หากินอยู่ห่างจากสำนักสงฆ์เต่าดำ 400 เมตร ตนจึงตัดสินใจไป โดยมีทั้งสองคนอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งก่อนยิงพบหมีขออยู่บนต้นไม้ จึงใช้อาวุธปืนขนาด .22 ของนายอนุสรณ์ ยิงที่ศรีษะหมีจนร่วงตกต้นไม้ จากนั้นนำซากไปให้ นายเจนระ ชำแหละ ส่วน นางคิน ภรรยา นายเจนระ อยู่ระหว่างการนอนหลับ
นายตาต้า ให้การต่อว่า สำหรับซากหมีขอนั้น ส่วนหัวตัดทิ้งลำห้วยในพื้นที่ ส่วนกรามโยนให้สุนัขกิน นอกจากนี้นายตาต้า ยังซักทอด นายอนุสรณ์ ยังพาไปจับ กบทูต หรือ กบภูเขาอีก 4 ตัว ที่ตำรวจพบ ทิ้งรวมอยู่กับซากหมีขอห่างจากจุดยิง 37 เมตร จากนั้นพล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ให้นายตาต้า ชี้ยืนยันกลุ่มยิง และร่วมกับชำแหละซากหมีขอ ซึ่งนายตาตา สามารถชี้ยืนยันได้ถูกต้อง
ด้านนายอนุสรณ์ รับสารภาพว่า อาวุธปืนทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ยึดมีการวางแผนนำเข้าป่าตั้งแต่แรก โดย นายทัศดนัย ขอกระโชก และ นางสาวศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม และนายวัชรชัย สมีรักษ์ อดีตปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย หรือ ปลัดแมน ได้ใช้ปืน 11 มม. ที่ยึดได้ภายหลังยิงแก้บน บริเวณสำนักสงฆ์เต่าดำ นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมเสบียงอาหารพักค้างแรม
ขณะที่พล.อ.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ขออำนาจศาลออกหมายจับรวม 14 คน จับกุมแล้ว 13 คน เหลือ นายเจนระ หรือ จิระ ที่ยังหลบหนี โดย นายอนุสรณ์ และ นายตาตา ถูกแจ้ง 7 ข้อหาหนัก อาทิ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าสงวน / ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความครอบครอง / ร่วมกันมีอาวุปืนและเครื่องกระสุนปืน พร้อมกำชับพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จ ภายใน 48 วัน หรือ ไม่เกินฝากขัง 4 ผลัด และมั่นใจพนักงานอัยการจะสั่งฟ้องผู้ต้องหา ยืนตามพนักงานสอบสวนทุกคนและทุกข้อหา ส่วนเหตุที่ผู้ต้องหากลับคำให้การจากอ้างว่าซื้อซากหมีขอจากชาวบ้าน 100 บาท เป็นรับสารภาพว่ายิง เนื่องจากจำนนด้วยพยานหลักฐาน
นอกจากนี้พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังสั่งการให้พนักงานสอบสวนนำตัว นายอนุสรณ์ ไปชี้จุดพบซากหมีขอในกระสอบ เนื่องจาก นายตาตา ไม่ได้เป็นคนทิ้งซากหมีขอ รวมทั้งสอบว่า นายตาตา ได้ค่าจ้างจากการยิงครั้งนี้หรือไม่ ส่วนตัวนายตาตานั้น ได้ไปสารภาพผิดกับเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เต่าดำว่า กลุ่มออฟโรดสั่งให้ยิง จึงต้องสอบปากคำเจ้าอาวาสประกอบสำนวนให้แน่นหนา
สำหรับรถออฟโรด หมายเลขทะเบียน 3555 ที่ยึดไว้และพบว่ามีการดัดแปลงสภาพโครงรถ และมี พันตำรวจโท เป็นผู้ครอบครอง สั่งการให้ตรวจสอบว่ามีส่วนในการกระทำผิดหรือไม่
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวถึงประเด็นดราม่า ที่สังคมจับจ้องการทำงานของตน โดยตั้งคำถามกลับไปยังกลุ่มคนดังกล่าวว่ารับงานมาเพื่อโจมตีให้ตนเสียหายหรือไม่ และมีความรู้เรื่องข้อกฎหมายเด็กหรือไม่ เนื่องจากคดีนี้ตนไม่มีการดำเนินคดีกับเด็ก พร้อมยืนยัน หมีขอไม่ตายฟรี แม้คณะทำงานชุดนี้จะเป็นชุดเดียวกับคดีเสือดำ ส่วนเนื้อหมีขอถูกปรุงเป็นเมนูใดหรือมีการวางแผนล่าหมีขอตั้งแต่ก่อนเข้าป่าหรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : วงจรปิดจับภาพออฟโรดทีม'ปลัดหมีขอ' วิ่งเป็นขบวนผ่าน 3 จุดก่อนถูกจับ
หิ้ว'ตาต้า'มือยิงหมี ขึ้นฮ. แถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
'ตาต้า'รับแล้ว! ใช้ปืนยิง'หมีขอ'จริง จนท.ตรวจพื้นที่พบหลักฐานเพียบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี