17 ต.ค.61 จากกรณีตัวแทนผู้ปกครองคนพิการใน จ.กาฬสินธุ์ ออกมาร้องเรียนเรื่องเงินค่าแรงผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 คนละ 1 แสนบาทต่อปี หรือเดือนละเกือบหมื่นบาท ถูกชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ยักยอกด้วยวิธีให้เปิดบัญชีทำงาน จากนั้นเก็บบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีก่อนจ่ายให้รายเดือนแค่คนละ 2,000-4,000 บาท ขณะที่มีการโอนเงินเข้าจริงเกือบหมื่นบาท เชื่อมีขบวนการสูบเลือดคนพิการแฝงในระดับชมรมถึงระดับสูง เรียกร้องเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ขณะที่ประธานชมรมฯ ได้ชี้แจงจ่ายค่าจ้างตามข้อตกลง พร้อมยืนยันบริหารจัดการด้วยความโปร่งใสตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ที่ห้องประชุมโปงลาง ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ มอบหมายนายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานชี้แจงแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีผู้ปกครองที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ร้องเรียนเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ตรวจสอบและให้ผู้รับผิดชอบ ชี้แจงเงินค่าจ้าง ตามโครงการจ้างเหมาบริการดูแลคนพิการ ที่ได้รับไม่ครบตามจำนวนที่ระบุในสัญญาจ้าง
นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าว นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ รู้สึกเป็นห่วงสภาพจิตผู้พิการ และขวัญกำลังใจผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 ซึ่งท่านผู้ว่าฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ติดตามปัญหาและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน
นายสนั่น กล่าวอีกว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น ประกอบด้วยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ฯ สำนักงานจัดหางานจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ป้องกันจังหวัด และอัยการคุ้มครองสิทธิ์ ซึ่งก่อนที่จะเดินหน้าเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งนี้ได้หารือเพื่อกำหนดมาตรการตรวจสอบ หาทางออกร่วมกัน และหาวิธีการเยียวยาผู้เสียหาย รวมถึงการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในโครงการปีถัดไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและความเสียหายซ้ำอีก
“เพื่อเป็นการป้องปรามปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในปีถัดไป ได้สั่งการให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ฯ สำนักงานจัดหางานฯ ประสานกับบริษัทเอกชน ที่จะเข้ามาจ้างงานและช่วยดูแลคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 35 อย่างใกล้ชิด โดยให้ความรู้ความเข้าใจกับคนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ ในสิทธิที่พึงมีพึงได้ และให้มีเจ้าหน้าที่ออกเยี่ยม และตรวจติดตามสภาพความเป็นอยู่ของผู้พิการ หรือผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 เป็นระยะ ว่าถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่” นายสนั่นกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายสนั่น สรุปว่า ประเด็นหลักที่หารือกันในวันนี้คือ เอาภาพรวมของการจ้างงานตามมาตรา 35 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ทั้งหมด ว่ามีกี่ราย มีการดำเนินการในลักษณะที่กำลังมีการร้องเรียนหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ ต้องเข้าไปตรวจสอบในเชิงลึก เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ได้ว่า เป็นการสมยอมหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้หากพบพิรุธที่ส่อไปในทางทุจริต ที่จะทำให้ภาครัฐเกิดความเสียหาย ก็ให้เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดี หรือในส่วนของผู้เสียหายที่เป็นผู้รับจ้างตามสิทธิ์มาตรา 35 เอง หากพบเบาะแสถูกยักยอกฉ้อโกง ก็ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีได้เช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี