19 ต.ค.61 จากกรณี เมื่อเวลา 03.40 น. ของวันที่ 18 ต.ค.61 กล้องวงจรปิดสามรถบันทึกภาพ รถกระบะ ชน นส.บุญเพียร ต้อไธสง อายุ 37 ปี และนายธวัช จิตรมั่น อายุ 23 ปี คู่รักที่ยืนทะเลาะกันกลางถนน จนทำให้กระเด็นไปไกลและเสียชีวิต บริเวณหน้าคลินิกทันตกรรม จุฬาทัตแพทย์ ถนนสุขุมวิท ขาเข้าระยอง หลัก กม.ที่ 180 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนจะมีรถเก๋งตามทับซ้ำอีกจำนวน 2 คัน
ล่าสุดความคืบหน้าทางคดี พ.ต.ท.สุพจน์ อำนาจมั่นคง สารวัตรสอบสวน สภ.พลูตาหลวง สามารถควบคุมตัวเยาวชน นายวุฒิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี คนขับรถเก๋ง ซูซูกิ สวิฟท์ สีแดง ทะเบียน 1กส- 8934 กทม. ได้หลังจากเกิดเหตุ ก่อนนำตัวมาสอบถาม จนเจ้าตัวรับว่าเป็นคนขับรถเก๋งมาทับร่างเป็นคันที่ 3 ตามในภาพกล้องวงจรปิดจริง เพราะไม่เห็นร่างของทั้งคู่ที่ก่อนหน้านี้โดนรถจำนวน 2 คันชนไปก่อน จึงทำให้ทับร่าง ทาง จนท.ได้แจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้นให้รับทราบ คือขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ไม่มีอนุญาติขับขี่ ไว้ก่อน ส่วนรถอีก 2 คัน ที่ก่อเหตุและหลบหนีไป จนท.กำลังเร่งติดตามหาตัวคนขับมาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หากใครพบเห็นหรือมีเบาะแส ของรถกระบะและรถเก๋ง ที่หลบหนีให้แจ้งมายัง สภ.พลูตาหลวง
ด้าน นางสาวสุนิตา จันทร์ไท อายุ 21 ปี เพื่อนผู้ตาย ได้เล่าเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุว่า เขาทั้งคู่ทะเลากัน ก็เลยจอด จยย.ให้ทั้งคู่ลงจาก จยย.เพื่อพูดคุย แต่ทั้งคู่ทะเลาะกันหนัก จึงช่วยกันพยายามแยกทั่งคู่ออกจากกันแต่แยกไม่ออก ก่อนที่ผู้หญิงจะได้วิ่งหนีข้ามไปอีกฝั่งของถนนโดยผู้ชายได้วิ่งตามไป ประกอบกันช่วงนั้นตนและเพื่อนอีกคนได้เกิดปวดปัสสาวะ จึงได้ขี่ จยย. ไปเข้าห้องน้ำ โดยบอกทั้งคู่เดี๋ยวมา เดี๋ยวจะกลับมารับ ซึ่งระหว่าง ขี่ จยย. ก่อนจะมาถึงที่เกิดเหตุทั่งคู่ทะเลาะกัน บนรถ จยย.กันอย่างรุนแรง ดึงผมกันไปมา เกือบทำให้ จยย.ล้มพลิกคว่ำ ซึ่งทั้งคู่ไม่ฟังทะเลาะกันใหญ่ห้ามก็ไม่อยู่ ซึ่งทั้งคู่คบกันมาได้ประมาณ 1 ปีเศษๆ ซึ่งตนกับเพื่อนกลับมาจากเข้าห้องน้ำ ก็เห็นทั้งคู่นอนตายอยู่กลางถนนแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ธนชัย อุสาหกิจ ผกก.สภ.พลูตาหลวง กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวที่เราได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด สามารถทราบได้ว่าผู้ตายทั้งคู่ได้มีการทะเลาะกันไปตีกันบนกลางถนน เวลาช่วงนั้นเป็นเวลาดึกมากแล้วตี 3 ซึ่งคนไปมาในช่วงนั้นรถน้อย ทำให้คนขับรถเร็วกว่าปกติ ซึ่งคนที่ขับรถมาทำให้มองไม่เห็นคนที่อยู่บนถนน จึงให้เกิดการเฉี่ยวชน ทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บถึงแก่ความตาย กรณีที่รถมาชนกรณีแรกคือคันที่ 1 คันที่ 2 และคันที่ 3 มาชนซ้ำอีกที่หนึ่ง ส่วนในครั้งนที่ 3 ไม่ได้หลบหนีไปไหน ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี ทางเราก็ได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบแล้ว ซึ่งได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ในขณะเดียวกันต้องรอสหวิชาชีพมาร่วมสอบสวน กรณี 2 คันแรก ทราบเบาะแสแล้ว และให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก เจ้าของรถทั้ง 2 คันมาให้การเพื่อให้ปากคำ
กรณีตั้งข้อหาทั้ง 3 คัน โดนข้อหาเดียวกันหมดเพราะอยู่ในระยะเวลาที่กระชั้นชิด ซึ่งสามารถทำให้ผู้ได้รับาดเจ็บถึงแก่ความตายได้ ในข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต แต่อีก 2 คัน คือกระบะคันแรกที่ชนและรถเก๋งคันที่ 2 ที่มาซ้ำจะมีข้อหาที่หนักว่า ในข้อหาหลบหนีไม่แจ้งเหตุกรณีรถเฉี่ยวชนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบในทันที เพื่อจะได้มีการช่วยเหลือคนเจ็บได้ทันท่วงที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี