19 ต.ค.61 นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) กล่าวภายหลังประชุมผู้อำนวยการ สกสค. จังหวัดทั่วประเทศ ว่า ตนได้มอบให้ สกสค.จังหวัด ไปแยกแยะภาระงานต่างๆ อาทิ งานที่ต้องทำ ว่ามีอะไรบ้าง ให้ไปสำรวจมา งานที่ควรทำและยังไม่ได้ทำมีอะไรบ้าง งานที่น่าทำแต่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำ งานที่มอบคนอื่นทำแทน และงานที่ไม่ต้องทำ แต่กลับเอามาทำ ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับภาระกิจ โดยตนตั้ง
เป้าว่าในการประเมินครั้งต่อไป คะแนนตัวขี้วัดของ สกสค.จะต้องเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้อยู่อันดับสุดท้ายในการประเมินองค์การมหาชนจาก 422 หน่วยงาน ประกฏว่าค่าเฉลี่ย 80 กว่า สกสค.อยู่อันดับที่ 50 กว่า เกือบอันดับสุดท้าย และคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในหน่วยงานรัฐ (ไอทีเอ) ก็น่าตกใจ ซึ่งถ้ามองในภาพรวมก็สอดคล้องเพราะไม่โปร่งใสจริง เป็นองค์การมหาชนเพียงองค์การเดียวที่ได้คะแนนต่ำกว่า 50%
“ เพราะฉะนั้น รอบใหม่นี้ เราได้เริ่มปูพื้นฐาน คือต้องยกฐานะขึ้นให้ได้ เพราะต้องรายงานผลในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ดังนั้น ผมจึงตั้งเป้าไว้ว่า ปีหน้า สกสค.จะต้องติดท็อปเท็น ในจำนวน 420 กว่าองค์การที่ถูกประเมิน และผมมั่นใจว่าเราทำได้ ซึ่งทิศทางการทำงานก็มีสองลู่ คือ ลู่ซ่อมอดีต และลู่สร้างอนาคต โดยลู่ซ่อมอดีต ขณะนี้กำลังตรวจเช็คและรวบรวมเรื่องต่างๆเพื่อจัดระบบการทำงานและไล่เช็คบิล ขณะเดียวกันก็สร้างอนาคตไปด้วย โดยประกาศนโยบายบริการเหนือความคาดหมาย ต่อไปนี้ การทำงานจะมีการประเมินผลทุกปี และตั้งเป้าไว้ด้วยว่าในการประเมินรอบปีต่อไป สกสค.จะต้องได้รางวัลเลิศรัฐ ด้วย ดังนั้น ผมจึงมอบให้ทุกหน่วยงานไปหาคำรับรองตามตัวชีวัด ของ สำนักงานคณะกรรมกาพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) ตัวชี้วัดของการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในหน่วยงานรัฐ (ไอทีเอ) และตัวชีวัดของรางวัลเลิศรัฐ มาถอดเกณฑ์ตัวขี้วัดว่าคืออะไร เพื่อนำมาปรับแผนการทำงาน และทุกฝ่ายจะต้องทำงานให้ตอบโจทย์ตัวชี้วัดทั้ง 3 ตัวนี้ด้วย และให้ทุกหน่วยงานทำงานเพื่อมุ่งสู่ดาวดวงเดียวกัน มีการติดตามการทำงานเป็นระยะอย่างชัดเจน ส่วนการประเมินความพึงพอใจ ก็จะไม่ประเมินแบบเดิมๆ แต่จะให้สวนดุสิตโพลล์ มาช่วยกำหนดเกณฑ์การประเมินและประเมินผลที่แท้จริง ในความสำเร็จของ สกสค.” นายอรรถพล กล่าว
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังได้แจ้งปลดล็อก ให้ ผอ.สกสค.จังหวัด ซึ่งเดิมอำนาจการอนุญาตเดินทางไปราชการในประเทศ จะต้องขอมาที่ส่วนกลาง ดังนั้น วันนี้ตนจึงปลดล็อคโดยมอบอำนาจให้ ผอ.สกสค.จังหวัด สามารถอนุญาตตนเองได้เหมือนหน่วยงานราชการอื่น สำหรับในส่วนของงบประมาณ เดิม จัดสรรให้เท่าๆกันไม่ว่าจะจังหวัดเล็กหรือใหญ่ แต่ต่อไปนี้ จะให้ดูที่ปริมาณของครู และขนาดพื้นที่แต่ละจังหวัด และเปิดโอการให้คิดงานและทำแผนพัฒนามาของบประมาณได้ รวมถึงจะมีการประเมินงานของ ผอ.สกสค.โดยเอานโยบายเป็นตัวตั้ง และให้ สำนักงาน สกสค.จังหวัดทุกแห่ง ตั้งจุดนัดพบให้ครูอาวุโส เพื่อให้ครูที่เกษียนฯแล้วได้มาพบปะกัน และให้หากิจกรรมสอดแทรกเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลต่างๆของครู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี