ม็อบปาล์มทวงตู่
ช่วยชดเชยส่วนต่างที่ขาดทุน
คุมพื้นที่เพาะปลูก
ย้ำเดือดร้อนหนัก
สภาเกษตรกรตรัง ทวงถามถึง “บิ๊กตู่” อีกรอบ พร้อม 4 ข้อเรียกร้อง จี้แก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ โดยให้รัฐจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างที่ขาดทุน พร้อมควบคุมลานเทปาล์มจุดรับซื้อปาล์มให้ได้มาตรฐาน
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นายธวัชชัย ฤกษ์เกลี้ยง หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากกรณีปัญหาราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำ ซึ่งปัจจุบันน้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 35 - 38 บาท ส่วนปาล์มน้ำมันอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 2.60 - 2.80บาท ส่งผลกระทบทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง เป็นตัวแทนเกษตรกร ได้เคยยื่นข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ต่อ พลอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 ขณะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจตรวจพื้นที่น้ำท่วม ที่ จ.ตรัง
โดยเฉพาะแนวทางระยะสั้น เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร มีทั้งหมด 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลชดเชยแก่เกษตรกรในส่วนต่างของปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ กับราคาต้นทุนการผลิตปาล์มน้ำมันต่อกก.ราคาต้นทุน3.60 บาท 2.ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยให้ใช้มาตรฐานสินค้าเกษตรของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แทน 3.ควบคุมปัจจุบันการผลิตไม่ให้มีราคาสูงเช่น ปุ๋ยเคมี 4.ให้ยกเลิกประกาศกรมวิชาการเกษตรเรื่อง เงื่อนไขการนำเข้าปาล์มน้ำมันจากราชอาณาจักรกัมพูชา 2556 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2556 ปรากฏว่าหลังยื่นหนังสือตลอด 10 เดือนยังไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใด ขณะที่เกษตรกรยังได้รับความเดือดร้อนอย่างอย่างหนักจากราคาปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำต่อเนื่อง
นายธวัชชัย กล่าวว่า ดังนั้นสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง จึงเตรียมยื่นหนังสือติดตามทวงถามความคืบหน้าจากนายกรัฐมนตรีผ่านทางจังหวัดตรัง ภายในต้นสัปดาห์หน้า พร้อมจะเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาด้านเกษตรกรรมภายในจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2562ทั้งปาล์มน้ำมันและยางพารา ต่อนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผวจ.ตรังด้วย
เช่นการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนแก่เกษตรกรชาวสวนยางพารา ด้วยการส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มชาวสวนยาง เพื่อรวบรวมจำนวนแปลงปลูก จัดทำฐานข้อมูลสมาชิกกลุ่ม,สนับสนุนให้มีการจัดตั้งบ่อน้ำยางสด ความจุ 1 ตัน และสนับสนุนสหกรณ์ที่รวบรวมน้ำยางสด จัดตั้งโรงงานปั่นน้ำยางข้น เพื่อจำหน่ายหรือแปรรูปในเครือข่ายสถาบันเกษตรกร อำเภอละ 1 จุด รวม 10 จุด 10 อำเภอ , เสนอให้มีการจัดตั้งตลาดกลางยางพาราในจังหวัดตรัง ที่ อ.เมืองตรัง
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่าส่วนปัญหาปาล์มน้ำมัน ต้องจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการกำกับและตรวจสอบลานเททลายปาล์มน้ำมัน ระดับอำเภอและจังหวัดอย่างน้อยเดือนละ1ครั้งและมีแผนปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและให้กำกับการปฏิบัติของลานเทอย่างใกล้ชิด ให้โรงงานแต่ละโรงซื้อ-ขายผลผลิตปาล์มโดยไม่แยกรวงและให้ประกาศราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันและประกาศราคาน้ำมันปาล์ม CPO(ราคาน้ำมันปาล์มดิบ) หน้าโรงงานและสถานที่รวบรวมรับซื้อน้ำมันปาล์ม ให้มีการขึ้นทะเบียนลานเทปาล์มน้ำมันและกำหนดมาตรฐานเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่โรงงานสกัดผลิตได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี