เมื่อวันที่ 13 มกราคม  พ.ต.ท.ประเสริฐ  แหวนแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บรถเข็นขายสินค้าภายในห้างเซียร์รังสิต เลขที่ 68/3 หมู่ 8 พหลโยธิน จึงประสานงานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองคูคต เทศบาลตำบลลำสามแก้ว และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คันพร้อมชุดผจญเพลิงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรถเข็นสินค้าสามล้อของบรรดาพ่อค้า แม่ค้าที่ประกอบกิจการขายกับข้าวและสินค้าเบ็ดเตล็ดช่วงเย็นบริเวณหน้าห้างเซียร์รังสิต  ซึ่งเป็นอาคารแบบชั้นเดียว ทำจากโครงเหล็กหลังคาทำจากแผ่นเมทัลชีสสร้างติดกับตัวอาคารของห้างสรรพสินค้าและศูนย์รวมอุปกรณ์ไอที เซียร์รังสิต ด้านทิศใต้ฝั่งทางดินรถขาออก ความกว้างของตัวอาคารประมาณ 6 เมตร ยาวประมาณ 40 เมตร พบเพลิงอยู่ระหว่างลุกไหม้อย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง เพื่อไม่ให้แสงเพลิงเข้าไปติดตัวอาคารของห้างสรรพสินค้า แต่เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นช่องของลม ทำให้เกิดแสงเพลิงอย่างรุนแรง  เพราะสินค้าที่เก็บอยู่ด้านในอาคารเก็บสินค้าเต็มไปด้วยวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า และอุปกรณ์ทำครัว จนเกิดเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด ท่ามกลางเสียงระเบิดจากถังแก๊สหุงต้มเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ เพลิงยังได้ลุกลามเข้าไปภายในตัวอาคารชั้นที่ 1ภายในห้างเซียร์รังสิตจากทั้งหมด 5 ชั้น  ทำให้ร้านสหกิจคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นร้านประกอบกิจการขายซ่อมคอมพิวเตอร์ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ไปด้วย รวมทั้งกระจกด้านหลังของธนาคารไทยพาณิชย์ นอกจากนี้ กลุ่มควันไฟยังพวยพุ่งเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าจนฝ้าและร้านค้ามีเขม่าควันไฟเกาะจนเป็นสีดำ ตลอดจนตัวอาคารด้านทิศใต้

เจ้าหน้าที่จึงประสานเจ้าหน้าที่ของโรงแรม เอเชีย แอร์พอร์ต ซึ่งมีความสูง 18 ชั้นอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต เพื่อนำผู้พักอาศัยลงมาด้านล่างเพื่อความปลอดภัย หลังกลุ่มควันได้พวยพุ่งขึ้นสู่ด้านบน เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เ จ้าหน้าที่จึงสามารถสกัดเพลิงไว้ได้

ด้าน นายทรานยุทธ สารางคำ อายุ 43 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้านไทยมาร์ค สโตร์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานที่เกิดเหตุ เห็นแสงเพลิงเกิดขึ้นภายในอาคารเก็บรถเข็นสามล้อของบรรดาผู้ค้าตลาดนัดยามเย็นหน้าห้างสรรพสินค้าเซียร์ช่วงกลางของอาคาร ทันใดนั้นแสงเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว  ตนจึงโ?รแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเ พื่อประสานงานรถดับเพลิงเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีเพียงเจ้าหน้าที่ร ปภ.ของห้างที่คอยเดินตรวจสอบความปลอดภัยอยู่

ด้าน พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต เปิดเผยว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต 1 เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งเจ้าหน้าที่ รปภ.คอยรักษาสถานที่เกิดเหตุ เพื่อรอการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนค่าเสียหายยังไม่สามารถประเมินค่าได้ เพราะกลุ่มควันและน้ำดับเพลิงได้เข้าไปอยู่ภายในตัวอาคารเป็นจำนวนมาก