รมว.เกษตรฯ ระบุ คนไทยติดเชื้อดื้อยา 1 แสนคน เสียชีวิต 3 หมื่นคนต่อปี เร่งลดการใช้ยาต้านจุลชีพในภาคเกษตรเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อดื้อยา
29 ต.ค.61 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการประชุมองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) จัดประชุมระดับโลกด้านการจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพและการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในสัตว์ ครั้งที่ 2 ที่ประเทศโมร็อกโก ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยา และควบคุมกำกับดูแลการใช้ยาต้านจุลชีพอย่างเหมาะสมในภาคการเกษตร ทั้งปศุสัตว์และประมง เนื่องจากหากมนุษย์ได้รับยาจุลชีพที่ตกค้างในผลผลิตทางการเกษตรจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดภาวะดื้อยาได้
“ปัจจุบันคนไทยติดเชื้อดื้อยาปีละกว่า 100,000 คน และเสียชีวิตจากเชื้อดื้อยา 30,000 คนต่อปี คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 42,000 ล้านบาท ส่วนทั่วโลกมีคนติดเชื้อดื้อยาปีละ 700,000 คน หรือนาทีละ 1 คน หากไม่มีการจัดการการใช้ยาจุลชีพอย่างเหมาะสม อีก 30 ปีข้างหน้าคนทั่วโลกจะเสียชีวิตจากเชื้อดื้อยาประมาณ 10 ล้านคน หรือนาทีละ 19 คน ไทยจึงต้องผนึกกำลังกับประชาคมโลกในการจัดการเชื้อดื้อยาเพราะการแพร่กระจายของโลกนั้นไม่เลือกเผ่าพันธุ์และไม่มีพรมแดน” นายกฤษฏา กล่าว
ด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์จัดการการใช้ยาต้านจุลชีพอย่างเหมาะสมและรอบคอบ โดยกำหนดให้ต้องขึ้นทะเบียนยาอย่างถูกต้อง ตรวจสอบคุณภาพยาสัตว์หลังออกสู่ตลาด ปราบปรามยาสัตว์ผิดกฎหมาย ห้ามใช้ยาต้านจุลชีพที่มีความเสี่ยงผสมในอาหารสัตว์ และห้ามใช้ยาปฏิชีวนะผสมในอาหารสัตว์ เพื่อเร่งการเจริญเติบโต มีสัตวแพทย์ควบคุมการใช้ยาและผสมยาในอาหารสัตว์ในฟาร์มเลี้ยง เก็บตัวอย่าง เพื่อเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพในสัตว์ ส่งเสริมการใช้ยาต้านจุลชีพในฟาร์มอย่างสมเหตุสมผล การเลี้ยงสัตว์แบบไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ใช้สมุนไพรและผลิตภัณฑ์ทางเลือก
ทั้งนี้ OIE ระบุว่า ภาวะดื้อยาต้านจุลชีพส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์เป็นวงกว้าง เมื่อยาต้านจุลชีพในปัจจุบันใช้ไม่ได้ผล ต้องผลิตยาใหม่ แต่การวิจัยและพัฒนายาใหม่นั้น ไม่ทันต่อความรุนแรงของเชื้อดื้อยาที่ปรับตัวเองให้ทนต่อยามากขึ้น อาจรักษาไม่หาย หรือยาใหม่มีราคาแพง รวมทั้งมีผลข้างเคียงรุนแรงด้วย ดังนั้นภาคปศุสัตว์จึงต้องมียุทธศาสตร์การจัดการใช้เชื้อจุลชีพที่เหมาะสมซึ่งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการลดการแพร่กระจายของเชื้อดื้อยาทั่วโลก
“เราต้องเร่งสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกร ให้ตระหนักเกี่ยวกับเชื้อดื้อยา โดยโรงฆ่าสัตว์ต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย และมีระบบมาตรฐาน เก็บตัวอย่างเพื่อเฝ้าระวังการดื้อยาของเชื้อจุลชีพ และมีพนักงานตรวจโรคสัตว์กำกับดูแล รวมถึงสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ ได้แก่ เก็บตัวอย่างเนื้อสัตว์เพื่อเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ ตรวจสอบการตกค้างของยาปฏิชีวนะในสินค้าปศุสัตว์ และส่งเสริมให้มีมาตรฐานของสถานที่จำหน่ายสินค้าปศุสัตว์ (ปศุสัตว์ OK) ซึ่งเป็นการดูแลตลอดห่วงโซ่การผลิต” นายสัตวแพทย์ สรวิศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี