ชาวบ้านแห่ร่วมตรวจสอบ“พระลาก”เก่าแก่คู่วัดหมน เมืองคอนแน่นวัด หลังสงสัยว่ามีการลักลอบเปลี่ยนเป็นองค์ใหม่ “เจ้าอาวาส-ผู้เชี่ยวชาญสำนักศิลปากร”ยัน“องค์เดียวกัน”
31 ต.ค.61 ที่ศาลาโรงธรรมวัดหมน หมู่ 5 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีชาวบ้านกว่า 300 คน เดินทางมาเรียกร้องให้พระปลัดอำนาจ ฐิติญาโณ เจ้าอาวาสวัดหมน กรณีพระลากคู่วัด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าช่วงประเพณีออกพรรษาที่ผ่านมา พระลากที่นำขึ้นประดิษฐานบนเรือพระ ไม่ใช่พระลากองค์เดิมที่ชาวบ้านกราบไหว้บูชา นำขึ้นประดิษฐานบนเรือพระต่อเนื่องมาทุกปี ขณะที่พระปลัดอำนาจ เจ้าอาวาส ชี้แจงยืนยันว่าพระลากรูปดังกล่าวเป็นองค์เดียวกัน ไม่มีการเอาองค์ใหม่มาเปลี่ยนตามที่ชาวบ้านเข้าใจกัน
ต่อมา น.ส.สุกมล วงศ์สวรรค์ ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ จ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช เดินทางมาร่วมตรวจสอบ โดยมีเจ้าหน้าตำรวจ สภ.ชะเมา อ.เมืองนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ทหาร มณฑลทหารบกที่ 41 กองทัพภาคที่ 4 ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
นางภิญโญ สุวรรณ อายุ 80 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ท่าเรือ อ.เมือง กล่าวว่า ตั้งแต่จำความได้และร่วมกิจกรรมของวัดหมน ต่อเนื่องทุกปี โดยจะนำพระลากมาร่วมในกิจกรรมอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงสงกรานต์ จะนำพระลากมาสรงน้ำ และช่วงประเพณีชักพระออกพรรษา จะมีการอัญเชิญพระลากมาประดิษฐานบนเรือพนมพระ แต่พระลากองค์ที่นำประดิษฐานบนเรือพนมพระปีนี้ ไม่ใช่องค์เดิมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเนื้อองค์เดิมจะเป็นสีทอง ยิ่งขัดยิ่งแวววาว สวยงามมาก แต่องค์นี้มีสีออกแดงๆ ดูหม่นหมอง
ขณะที่นางเทียม อาชาฤทธิ์ อายุ 74 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ท่าเรือ อ.เมือง กล่าวว่า ตนและชาวบ้านในพื้นที่อย่างน้อย 2 - 3 หมู่บ้าน มีความรักและผูกพันกับพระลากวัดหมน มานานแล้ว ทุกปีชาวบ้านทุกคนจะร่วมกิจกรรม ทั้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ และช่วงประเพณีชักพระออกพรรษา แต่ปีนี้สังเกตเห็นลักษณะขององค์พระแตกต่างจากเดิมชัดเจน โดยเฉพาะพระพักตร์จะบวมใหญ่กว่าองค์เดิม ปากหรือพระโอษฐ์จะกว้างกว่าองค์เดิม นอกจากนี้ในส่วนอื่นๆอีกหลายจุดก็แตกต่างกัน
ด้าน น.ส.สุกมล กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น โดยนำภาพถ่ายพระลากองค์เดิมคู่วัดมาเปรียบเทียบกับพระลากที่นำมาประดิษฐานกลางศาลาโรงธรรม พบว่า มีความใกล้เคียงกันมาก จุดสำคัญต่างๆ รวมทั้งจุดที่เป็นตำหนิขององค์พระเหมือนกันมากๆ จนพอจะสรุปเบื้องต้นได้ว่าเป็นพระองค์เดียวกัน โดยเนื้อองค์พระคาดว่าจะมีอายุไม่น้อยกว่า 50 ปีขึ้นไป แต่จะตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากภาพพระลากองค์เดิมที่นำมาเปรียบเทียบกับองค์นี้เป็นภาพที่ไม่ค่อยชัด จึงยังสรุปชัดเจน 100% ไม่ได้
ทั้งนี้ หากชาวบ้านมีภาพที่ชัดกว่านี้ขอให้นำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนภาพถ่ายหลายๆ ภาพถ่ายในมุมที่แตกต่างกัน ทำให้รายละเอียดภาพอาจไม่เหมือนกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเก็บข้อมูลจากชาวบ้าน และเสาะหาภาพพระลากองค์เดิมที่ถ่ายชัดๆ ก่อนสรุปผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ น.ส.สุกมล กำลังนำภาพพระลากขึ้นไปเปรียบเทียบกับองค์พระลาก พร้อมอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจในส่วนต่างๆ ปรากฏว่าองค์พระลากที่ประดิษฐานบนแท่นโลหะเกิดล้มหงายหลังเสียงดังโครมใหญ่ ท่ามกลางความตกตะลึงของเจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน สื่อมวลชน และพระสงฆ์ ทำให้คนเฒ่าคนแก่ต่างร้องห่มร้องให้ เพราะสงสารพระลากองค์ดังกล่าว โดยต่างเชื่อว่าการที่พระลากล้มเอง โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เพื่อต้องการจะบ่งบอกอะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบในคลิป พบว่า สาเหตุที่พระลากล้มเกิดจาก น.ส.สุกมล เอามือไปแตะที่องค์พระเบาๆในช่วงที่อธิบายเปรียบเทียบ ทำให้องค์พระลากที่ไม่ได้ยึดกับฐานโลหะที่ประดิษฐานหงายหลังล้มลงดังกล่าว
ด้านนายจำนง บุษบรรณ อายุ 62 ปี หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม “จา ขุนพันธ์” กล่าวว่า ตนและครอบครัวใกล้ชิดกับพระลากของวัดหมน มาตลอด และพระองค์นี้เมื่อประมาณ 90 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านได้รวบรวมเงินบริจาค และลุงของตน พร้อมด้วยชาวบ้านอีก 3 คน เป็นคนไปเช่ามาจากกรุงเทพ ซึ่งการเดินทางเข้ากรุงเทพในสมัยนั้นจะเดินทางโดยใช้เรือ และไปลงเรือที่ท่าเรือ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ยืนยันว่าพระลากที่ประดิษฐานอยู่ตรงหน้าของทุกคน คือ พระลากองค์เดิมของวัดหมน อย่างแน่นอน
“จุดตำหนิที่สำคัญที่สุดที่ชาวบ้านอาจไม่รู้ และไม่เคยสังเกต คือ ชายจีวรจะคดงอไปด้านหน้าเล็กน้อย ซึ่งเกิดเมื่อครั้งมหาวาตภัยปี 2505 ลมพายุพัดจนกุฏิที่ประดิษฐานพระลากพังเสียหาย เจ้าอาวาสในสมัยนั้นได้รับบาดเจ็บ ส่วนพระลากล้มอย่างแรง ทำให้ชายจีจรด้านล่างคดงอ จนถึงปัจจุบันนี้ หากไม่สังเกตหรือพิจารณาดูให้ดีจะไม่ทราบในจุดนี้ ซึ่งก็เป็นองค์เดียวกับที่ประดิษฐานอยู่ต่อหน้าทุกคน” นายจำนง กล่าว
ขณะที่นายกิตติพงศ์ ผาดแผ้ว กล่าวว่า กรณีพระลากวัดหมน ชาวบ้านเริ่มสงสัยมาระยะหนึ่งแล้วว่ามีการนำพระลากองค์ใหม่ที่มีพุทธลักษณะคล้ายเคียงกันมาสับเปลี่ยน ส่วนองค์เดิมคาดว่ามีการนำไปไว้ที่อื่นเพื่อประโยชน์บางอย่าง อาจทำกันเป็นขบวนการในการปลอมแปลงพระลากองค์องค์ใหม่มาเปลี่ยนไว้แทนองค์เดิม โดยเฉพาะช่วงเทศกาลชักพระออกพรรษาที่ผ่านมา องค์พระลากที่นำขึ้นประดิษฐานบนเรือพนมพระ ตนและชาวบ้านยืนยันว่าไม่ใช่องค์เดิมอย่างแน่นอน จึงมีการถ่ายรูปนำมาเปรียบเทียบกับรูปถ่ายพระลากองค์เดิม และนำไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว โดยชาวบ้านนัดรวมตัวกันที่วัดหมนในวันนี้
“ผมมองว่าพระลากที่นำมาประดิษฐานในวันนี้ อาจเป็นพระลากองค์เดิม แต่เชื่อว่าเป็นคนละองค์กับที่อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนเรือพนมพระในช่วงประเพณีชักพระออกพรรษาที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ทางวัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องรู้ว่าชาวบ้านเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ จึงมีการนำพระลากองค์เดิมกลับมา และเอาองค์ที่ประดิษฐานบนเรือพนมพระออกไป ตอนนี้จึงอยากจะรู้ว่าพระลากอีกองค์ที่นำมาประดิษฐานบนเรือพนมพระช่วงประเพณีชักพระออกพรรษาที่ผ่านมาอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามทางชาวบ้านจะรอการสรุปผลการตรวจพิสูจน์ของสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและสำนักศิลปากรที่ 12 ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง” นายกิตติพงศ์ กล่าว
ส่วนพระปลัดอำนาจ ฐิติญาโณ เจ้าอาวาสวัดหมน กล่าวว่า อาตมารักษาการเจ้าอาวาสวัดหมน เมื่อปี 2555 ต่อมาได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสเมื่อปี 2556 อาตมายืนยันว่าพระลากวัดหมน คือ พระลากองค์นี้องค์เดียวเท่านั้น ไม่มีใครมาเปลี่ยนตามที่ชาวบ้านเข้าใจ ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2556 ช่วงสงกรานต์และประเพณีชกพระออกพรรษา อาตมาได้ถ่ายรูปพระลากลงในเฟซบุ๊ควัดหมนอย่างต่อเนื่อง ขอให้พุทธศาสนิกชนไปตรวจสอบดูได้เลยว่าเป็นองค์เดียวกันหรือไม่ และขอให้พุทธศาสนิกชนทุกท่าน มีสติพิจารณาให้ดีๆก็จะเห็น และสรุปได้ทันทีว่าพระลากวัดหมน คือ องค์ที่ประดิษฐานปรากฏอยู่ต่อหน้าของทุกคน ไม่มีใครทำใหม่และนำมาสับเปลี่ยนอย่างแน่นอน อาตมาพร้อมให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี