วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แห่ขานรับ นโยบาย “กฤษฏา” การตลาดนำการผลิต ภาคเอกชนยืนยันพร้อมรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่จำกัดปริมาณตามโครงการของรัฐบาล ระบุซื้อราคาประกันไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8 บาท ยืนยัน ช่วยเกษตรกรเต็มที่ให้มีรายได้มั่นคง ชี้เป็นต้นแบบโครงการเป็นรูปธรรมมากที่สุด จ่อใช้โมเดลปีต่อไป
1 พ.ย. 61 นายณรงค์ วงศ์ธรรมสรณ์ ผู้อำนวยการจัดซื้อและสำรวจวัตถุดิบ บริษัทเบทาโกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาคเอกชน ประชุมร่วมกับนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ พร้อมยืนยันว่า จะรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกร สมัครใจเข้าโครงการสานพลังประชารัฐส่งเสิรมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ตามนโยบายการตลาดนำการผลิต ของนายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยบูรณาร่วมมือกันทุกส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าดำเนินการดูแลสนับสนุนเกษตรกร ในพื้นที่เป้าหมาย อย่างครบวงจรมากที่สุด และเป็นรูปธรรมชัดเจนตั้งแต่มีโครงการมา
“สำหรับเบทาโกรมีโรงงานผลิตอาหารทั้งหมด 10 โรง ซึ่งพร้อมรับซื้อผลผลิตไม่จำกัดปริมาณ ขอให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมั่นใจได้ว่า มีผู้รับซื้อผลผลิตแน่นอน อีกทั้งราคาจะเป็นตามกลไกตลาด รับประกันไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8 บาทที่หน้าโรงงาน ขณะนี้ราคาข้าวโพดอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท คาดว่า ในช่วงเก็บผลผลิตเดือนมีนาคมถึงเมษายน ราคาจะไม่ลดลงไปกว่านี้เนื่องจากข้าวโพดเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์ที่จำเป็น อีกทั้งผลผลิตในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการ” นายณรงค์ กล่าว
นายณรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา แม้ผู้ผลิตอาหารสัตว์จะนำเข้าข้าวสาลีมาทดแทนข้าวโพด แต่ไม่สามารถทดแทนได้ทั้งหมดในสูตรที่เลี้ยงสัตว์แต่ละชนิด โดยอาหารไก่ต้องมีข้าวโพดอย่างน้อยร้อยละ 40 – 50 อาหารสุกรประมาณร้อยละ 20 -25 และอาหารโคประมาณร้อยละ 20 จากการประชุมของสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย บริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่เข้าร่วมโครงการจะแบ่งจุดรับซื้อกัน กำหนดชัดเจนว่า บริษัทใดรับซื้อที่จังหวัดใด ในส่วนของเบทาโกร มีโรงงานที่ัเป็นจุดรับซื้อวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์มี 4 โรงคือ ที่จังหวัดลำพูน สมุทรปราการ และลพบุรีมี 2 โรงงาน
นอกจากนี้ได้กำหนดราคารับซื้อตามคุณภาพคือ ราคาประกันไม่ต่ำกว่า 8 บาทนั้น เป็นราคาหน้าโรงงานที่ความชื้นร้อยละ 14.5 ซึ่งปกติแล้วข้าวโพดสดมีความชื้นร้อยละ 30 ราคาที่โรงงานต่างๆ รับซื้อขณะนี้อยู่ที่ 7.50 – 7.80 บาท เมล็ดเสียไม่เกินร้อยละ 6 เมล็ดแตกไม่เกินร้อยละ 5 และราคาจะปรับลดลงบ้างเล็กน้อยตามระยะทางขนส่งจากจุดรับซื้อมายังโรงงาน โดยหากระยะทางไม่เกิน 150 กิโลเมตร ค่าขนส่ง 250 บาทต่อตัน หากระยะทางไม่เกิน 350 กิโลเมตร ค่าขนส่งตันละ 350 บาท แต่เกษตรกรมีทางเลือกที่จะขายให้แก่โรงงานผลิตอาหารสัตว์ในพื้นที่ใกล้เคียงได้ หากพึงพอใจในราคารับซื้อ ทางสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยไม่ได้ผูกขาดให้ขายเฉพาะบริษัทที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
“เราต้องการสนับสนุนโครงการสานพลังประชารัฐของรัฐบาล ยืนยันว่า ไม่มีนโยบายกดราคา เนื่องจากมุ่งหวังให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดในพื้นที่กฎหมายมีรายได้ที่มั่นคง มั่นใจว่า โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนาในปีนี้จะประสบความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นโมเดลต้นแบบในการดำเนินงานในปีต่อๆ ไป” นายณรงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี