“ตม.สุราษฎร์ธานี” ควงตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ทหาร จับกุม“มาเฟียฝรั่งเศส” ประวัติแสบเลียนแบบหนัง“เดอะฟาสต์ฯ”ขนยานรก

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.61 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วันชนะ บวรบุญ ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย , ตำรวจ สภ.บ่อผุด และทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 45 พื้นที่เกาะสมุย เข้าตรวจสอบที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ซึ่งเปิดเป็นที่ตั้งบริษัท แองเจล่า กิโอเวียนนี่ จำกัด มีนายอังเดร เอสเปีย คาปัว สัญชาติฝรั่งเศส อายุ 38 ปี เป็นกรรมการบริษัทร่วมกับคนไทย

การตรวจสอบดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบจากสายลับ ว่า นายอังเดร เอสเปีย คาปัว สัญชาติฝรั่งเศส เป็นบุคคลคนเดียวกับนายอังเดร เอสปิแอสส์ กาโบ อายุ 39 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ทางการฝรั่งเศสต้องการตัว และถูกจับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท หลังถูกจับครั้งนั้นนายอังเดร ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ประเทศฝรั่งเศส พร้อมถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศไทยถาวร

พ.ต.อ.วันชนะ เปิดเผยว่า ฝ่ายกิจการตำรวจ สถานทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย แจ้งยืนยันผลการตรวจสอบข้อมูลนายอังเดร เอสเปีย คาปัว (MR.ANDRE ESPIASSE CABAU) สัญชาติฝรั่งเศส หนังสือเดินทางเลขที่ 17CA87146 เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมือวันที่ 6 ก.ย.61 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรประเภทนักธุรกิจถึงวันที่ 4 ธ.ค.61 คือ บุคคลเดียวกันกับ นายอังเดร โดนาโต้ (MR.ANDRE DONATHA) สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นชื่อในหนังสือเดินทางปลอมเลขที่ 04CP64912 ที่ใช้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งถูกจับกุมและส่งกลับประเทศฝรั่งเศสในปี 48 ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้บันทึกรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามพ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา12(7) ถูกดำเนินคดีในข้อหาความผิดภัยสังคมและใช้หนังสือเดินทางปลอม

ล่าสุด พ.ต.อ.ณัฎฐภาคิน ขวัญชัยพฤษษ์ รอง ผบก.ตม.6 รรท.ผบก.ตม.6 อนุมัติให้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของนายอังเดร เอสเปีย คาปัว อายุ 38 ปี ผู้ต้องหา และบันทึกรายชื่อของคนต่างด้าวในระบบคอมพิวเตอร์เป็นคนต่างด้าวที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร พร้อมควบคุมตัวผลักดันกลับประเทศฝรั่งเศสต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ประวัติของนายอังเดร ได้ร่วมกับพวกใช้ขบวนรถสปอร์ตที่มีความเร็วสูงลักษณะเหมือนภาพยนตร์เรื่องเร็วแรงทะลุนรก (Fast and Furious) ลักลอบขนยาเสพติด โคเคน 4 กิโลกรัม และยาอีอีก 10,000 ห่อ จากกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ เข้าประเทศฝรั่งเศส จนถูกจับกุมดำเนินคดี และศาลได้สั่งลงโทษจำคุก เป็นเวลา 10 ปี ในปี 2548 หลังจากใช้โทษแล้ว 7 ปี จึงขอพักโทษในปี 2554 โดยระหว่างพักโทษ 3 ปี ได้หลบหนีออกนอกประเทศฝรั่งเศส โดยใช้หนังสือเดินทางปลอมเข้ามากบดานอยู่ในประเทศไทย ระหว่างที่อยู่ในประเทศไทย เครือข่ายยาเสพติดภายใต้การนำของน้องชายผู้ต้องหาก็ถูกถล่มด้วยอาวุธสงครามจนเสียชีวิต คาดว่าเป็นการกระทำโดยเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติด้วยกัน จนเป็นข่าวใหญ่ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา