7 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องประชุม อบจ.บุรีรัมย์(เขากระโดง) ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ นายเสริมศักดิ์ ทองศรี รองนายก อบจ.บุรีรัมย์ เป็นประธานการประชุมประชาคมท้องถิ่นและคณะกรรมการพัฒนาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ครั้งที่ 3/2561 เพื่อพิจารณาแผนร่างแผนพัฒนาสี่ปี (พ.ศ.2561-2564) เพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) ของ อบจ.บุรีรัมย์ ตามที่คณะกรรมการสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนา อบจ.บุรีรัมย์ ได้เสนอร่าง เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ที่ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 3 พ.ศ.2561หมวด 4 ข้อ 22 โดยมีคณะกรรมการพัฒนา อบจ.บุรีรัมย์ และประชาคมท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียงกัน
ทั้งนี้ ระเบียบวาระสำคัญของการประชุมครั้ง เป็นการพิจารณาโครงการจำนวน 2 โครงการ ที่ อบจ.บุรีรัมย์ เสนอรวมงบประมาณทั้งสิ้น62,038,000 บาท คือ 1.โครงการจัดซื้ออัฒจันทร์เหล็กพร้อมติดตั้ง บริเวณสนามกีฬากลาง อบจ.บุรีรัมย์ (เขากระโดง สเตเดี้ยม) กับสนามฟุตบอล 2 และสนามฟุตบอล 3 ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ งบประมาณจำนวน 43,228,000 บาท โดยจะเป็นการติดตั้งอัฒจันทร์นั่งชมกีฬา แบบโครงเหล็กถอดประกอบ และสามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งอัฒจันทร์นี้จะสามารถรองรับผู้เข้าชมการแข่งขันกีฬา ได้ไม่น้อยกว่า 16,000 คน และ 2.โครงการก่อสร้างหลังคาผ้าใบโครงเหล็ก พร้อมเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก บริเวณอัฒจันทร์ที่นั่งสนามกีฬากลาง อบจ.บุรีรัมย์(เขากระโดง สเตเดี้ยม) กับสนามฟุตบอล 2 และสนามฟุตบอล 3 ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ งบประมาณ 18,810,000 บาท ซึ่งหลังคาผ้าใบโครงเหล็กที่จะติดตั้งนี้ มีขนาดไม่น้อยกว่าความกว้าง 18.50 เมตร ความยาว 416 เมตร และเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 0.15 เมตร คิดเป็นพื้นที่ไม่น้อยกว่า 7,195 ตารางเมตร ซึ่งในที่ประชุมมีมติเห็นชอบผ่านร่างโครงการดังกล่าว
ด้านนายเศรษฐพร เบญจศรีรักษ์ ปลัด อบจ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.บุรีรัมย์ มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลสนามกีฬากลาง อบจ.บุรีรัมย์(เขากระโดงสเตเดี้ยม) กับสนามฟุตบอลสนามที่ 2 และสนามที่ 3 เพื่อให้บริการเยาวชน นักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป ในการจัดกิจกรรมกีฬา และการออกกำลังกาย ประกอบกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ประกาศให้ จ.บุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งกีฬา (SPORT CITY) ซึ่งการเป็นเมืองกีฬานั้น จะเป็นการช่วยส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัด ได้หันมาเล่นกีฬาและออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งจะมีการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬาในจังหวัดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ในการเก็บตัวฝึกซ้อมสำหรับนักกีฬาชาวต่างชาติ ที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกด้วย
นายเศรษฐพร กล่าวว่า ประกอบกับ จ.บุรีรัมย์ ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 “บุรีรัมย์เกมส์” และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ในปี 2562 ที่จะถึงนี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าว จ.บุรีรัมย์ได้ดำเนินการตรวจสอบความพร้อมของสนามกีฬากลาง อบจ.บุรีรัมย์ (เขากระโดงสเตเดี้ยม) และสนามฟุตบอล 2 กับ 3 โดยให้ อบจ.บุรีรัมย์ จัดเตรียมสนามแข่งให้ได้มาตรฐาน เช่น ป้ายแสดงผลการแข่งขัน (สกอร์บอร์ด) จัดให้มีอัฒจันทร์ที่นั่งชม ตาข่ายกั้นลูกฟุตบอลระหว่างสนาม ปรับปรุงห้องสุขา ห้องรับรอง (VIP) ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ให้กับนักกีฬา กรรมการผู้ตัดสิน เจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้ชมการแข่งขัน โดยใช้งบประมาณของ อบจ.บุรีรัมย์
นายเศรษฐพร กล่าวต่ออีกว่า จึงได้จัดทำโครงการเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 2 อีกทั้งเพื่อให้บริการประชาชน ในการออกกำลังกาย การจัดการแข่งขันกีฬา และกิจกรรมด้านอื่นๆ ในโอกาสต่างๆต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนา อบจ.บุรีรัมย์ จึงได้จัดทำร่างแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี (พ.ศ.2561-2564) เพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) ขึ้นตามกระบวนการเพิ่มเติมแผนพัฒนาท้องถิ่น แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 3 พ.ศ.2561 ข้อ 22
“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการดังกล่าว ไม่ปรากฏในแผนพัฒนาของ อบจ.บุรีรัมย์ แต่มีความจำเป็นที่จะดำเนินการ เพื่อให้เกิดการจัดการด้านมาตรฐานความพร้อมของสนามกีฬา ที่จะใช้รองรับการจัดแข่งขันกีฬาต่างๆ ผู้บริหาร อบจ.บุรีรัมย์ จึงเห็นชอบให้เพิ่มเติมแผนพัฒนาฯดังกล่าว บรรจุไว้ในโครงการ เพื่อให้สมกับการเป็นเมืองแห่งกีฬา” นายเศรษฐพร กล่าว.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี