พิษมรสุม!ดับ2สูญหาย1
‘ประจวบ-ชุมพร’ยังอ่วม
เดือดร้อน7พันครัวเรือน
‘ปภ.’เร่งช่วยเหลือด่วน
ฝนถล่ม‘สมุย’จมบาดาล
ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร พบเสียชีวิต 2 ศพ สูญหาย 1 เดือดร้อนกว่า 7 พันครัวเรือน เร่งช่วยเหลือโดยด่วน ขณะที่ รพ.บางสะพาน น้ำลดแล้ว เปิดถนนเพชรเกษมล่องใต้ได้ตามปกติ “เกาะสมุย” ถูกฝนถล่มหนัก น้ำท่วมถนนรถยนต์จมน้ำหลายคัน “นายกฯ” สั่งให้เร่งสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดมีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร รวม 11 อำเภอ 65 ตำบล 477 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,382 ครัวเรือน 20,665 คน เสียชีวิต 2 ราย สูญหาย 1 ราย ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว
ประจวบ-ชุมพรดับ2สูญหาย1ราย
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า ร่องมรสุมกำลังแรงพัดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 7-9 พฤศจิกายน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 2 จังหวัด รวม 11 อำเภอ 65 ตำบล 477 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,382 ครัวเรือน 20,665 คน เสียชีวิต 2 ราย สูญหาย 1 ราย ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.บางสะพานน้อย อ.บางสะพาน อ.ทับสะแก และ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รวม 18 ตำบล 129 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,500 ครัวเรือน 10,000 คน เสียชีวิต 1 ราย
ส่วนที่ จ.ชุมพร ฝนตกหนักน้ำไหลหลากเข้าท่วม พื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ปะทิว อ.สวี อ.เมืองชุมพร อ.หลังสวน อ.ทุ่งตะโก อ.ท่าแซะ และ อ.ละแม รวม 47 ตำบล 348 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,882 ครัวเรือน 10,665 คน เสียชีวิต 1 ราย สูญหาย 1 ราย สะพาน 11 แห่ง ฝาย 5 แห่ง ประปา 3 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง ท่อระบายน้ำ 22 แห่ง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับผลกระทบ 2,811 ไร่
ปภ.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายชยพล กล่าวา ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
2อำเภอที่ประจวบฯเริ่มคลี่คลาย
นายภิรมย์ นิลทยา รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมจากฝนตกหนักต่อเนื่องที่ อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย เริ่มคลี่คลาย การจราจรบนถนนเพชรเกษมรถทุกชนิดสามารถขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ได้ตามปกติ สำหรับถนนสายรองในพื้นที่ 2 อำเภอ บางช่วง ยังมีน้ำท่วมขังเป็นบางจุดเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนให้ระมัดระวัง ขณะที่การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายนำเครื่องใช้ที่จำเป็น อาหารและน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้ทั่วถึง
ส่วนที่ รพ.บางสะพานน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่เปิดบริการเต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับ รร.อนุบาลบางสะพานน้ำได้ลดลง เนื่องจากการระบายน้ำในคลองบางสะพานสามารถระบายลงทะเลที่ปากคลองปากปิดได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง และเจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้ระดมเครื่องจักรกลหนักขุดลอกตะกอนทรายเพื่อเปิดปากคลองให้น้ำระบายได้สะดวกมากขึ้น สำหรับพื้นที่เสี่ยงที่ยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษที่ อ.บางสะพาน บริเวณเขตเทศบาลตำบลบ้านกรูด อ.บางสะพานน้อย ในเขตเทศบาลตำบลบางสะพาน อ.ทับสะแก และ อ.เมือง ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ผู้ว่าฯประจวบฯตรวจพื้นที่เดือดร้อน
ด้าน นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม ส่วนหน้า ที่ รร.บางสะพานวิทยา ม.6 ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน พร้อมกล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ภาพรวมทั่วไปในพื้นที่ อ.บางสะพาน ฝนเริ่มหยุดแล้วแต่ยังมีสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือปริมาณน้ำที่ยังมีการท่วมขังในพื้นที่ น้ำที่ไหลมาจากที่สูงก็ลดระดับลงมามากแล้ว พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งนำเครื่องจักรขุดลอกปลายคลองบางสะพานเพื่อเปิดหน้าคลองให้กว้าง 60 เมตร เพื่อป้องกันทรายทะเลไม่ให้พัดขึ้นมาปิดหน้าคลอง ขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองบางสะพานลดลงถึง 15 เซนติเมตรต่ำกว่าตลิ่ง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ รพ.บางสะพาน ตลาดบางสะพาน หน้าโรงเรียนอนุบาล สถานีรถไฟ เข้าสู่ภาวะปกติ
หน่วยกู้ภัย-ทหารเข้าช่วย ปชช.
ขณะเดียวกัน หน่วยกู้ภัยสว่างเมธีธรรมสถานสามร้อยยอดและหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี ได้นำเรือให้การช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากผลกระทบน้ำท่วมรวมถึงนำน้ำดื่ม สิ่งของจำเป็นพร้อมประกอบอาหารเลี้ยงให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.บางสะพาน-บางสะพานน้อย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทหารร้อย รส. อ.บางสะพานน้อย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำของใช้ที่จำเป็น อาหารและน้ำดื่ม เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านกว่า 70 หลังคาเรือนบริเวณด้านหลังเขื่อนช่องลม หมู่ที่ 8 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย
ฝนถล่มสมุยทำรถจมน้ำหลายคัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศรอบเกาะสมุยที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆฝนทำให้อากาศปิด ฝนตกตลอดทั้งวันตั้งแต่วันที่ 8-10 พฤศจิกายน ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสะสมส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังบนพื้นผิวถนนสายรอบเกาะสมุยหลายจุด เช่น ที่บริเวณถนนสายทวีราฎร์ภักดี ซึ่งเป็นถนนสายรอบเกาะสมุย ตั้งแต่หน้าโรงแรมบ่อผุดรีสอร์ท ไปจนถึงหน้าบริษัทฟ้าทวีพร หมู่ 1 ต.บ่อผุด น้ำท่วมขังพื้นผิวถนน ระดับน้ำสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร เป็นระยะทางยางกว่า 600 เมตร ทำให้รถติดเคลื่อนตัวได้ช้า
ที่บริเวณถนนหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยมีระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 เซนติเมตร และจุดที่น้ำท่วมหนักที่สุดบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาเกาะสมุย ระดับน้ำสูงกว่า 70 เซนติเมตร ทำให้รถยนต์ทุกชนิดผ่านไปไม่ได้ และมีรถยนต์จมน้ำหลายคัน ทั้งนี้บริเวณหน้าบิ๊กซี สาขาเกาะสมุย จุดดังกล่าว ถนนเป็นแอ่งเป็นจุดที่น้ำท่วมขังซ้ำซาก เนื่องจากปากท่อระบายน้ำแคบทำให้น้ำระบายไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณบ้านปลายแหลม หมู่ 5 ต.บ่อผุด และบริเวณสามแยกหอนาฬิกา หมู่ 2 ต.บ่อผุด เป็นจุดที่น้ำท่วมขังสูง และเป็นย่านเศรษฐกิจของเกาะสมุยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
นายกฯ สั่งเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก
เมื่อเวลา 17.00 น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร และ จ.เพชรบุรี เริ่มคลี่คลายแล้ว ส่วน ถ.เพชรเกษมทั้งขาขึ้นและขาล่องก็สามารถสัญจรได้ตามปกติ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทางจังหวัดเฝ้า ระวังและติดตามปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ระดับน้ำที่ยังท่วมขังในบางจุด และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณรายรอบ ทั้ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมทั้งแจ้งเตือนชาวบ้านให้รับทราบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
ให้เร่งสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า นายกฯ ขอให้ จ.ชุมพร เร่งตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ท่าแซะ ที่รับมวลน้ำต่อจาก จ. ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านให้มากที่สุด เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ทั้งอาคารบ้านเรือน ถนนหนทาง พื้นที่ทางการเกษตร และดูแลเยียวยาผู้ประสบภัยตามระเบียบทางราชการอย่างเต็มที่ สำหรับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ หรือแจ้งข้อมูลที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี