กสศ.ท็อปอัพเงินอุดหนุนเด็กยากจนพิเศษ สังกัดสพฐ.กว่า 6 แสนคน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มโอกาศทางการศึกษา
12 พ.ย.61 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้ร่วมลงนามเพื่อดำเนินการโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนแบบมีเงื่อนไข ในสถานศึกษา สังกัด สพฐ. พร้อมชี้แจงการดำเนินงานการดำเนินงานจัดทำข้อมูลระบบการคัดกรองนักเรียนยากจน ประจำภาคเรียนที่ 2/2561 แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา และครูทั่วประเทศ ผ่านระบบTeleconference
นายบุญรักษ์ กล่าวว่า สพฐ.ได้ร่วมกับ กสศ.ในการพัฒนาเครื่องมือเพื่อพัฒนาการจัดเก็บข้อมูลนักเรียนที่มีฐานะยากจน มาเป็นเวลา 3 ปี และได้มีการจัดทำเกณฑ์การคัดกรองนักเรียนยากจนและกลไกการตรวจสอบหลายระดับ ซึ่งจากการวิจัยและจัดทำระบบฐานข้อมูล และแอปพลิเคชั่นเพื่อให้โรงเรียนและครูได้กรอกข้อมูลผ่านระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปใน 2 เรื่อง คือ 1.ปฏิรูประบบการจัดสรรทรัพยากรเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ที่ทำให้เงินอุดหนุนถูกจัดสรรไปช่วยเหลือนักเรียนตรงสภาพปัญหาและความจำเป็นรายบุคคล และ 2.ปฏิรูปกลไกการจ่ายเงินอุดหนุนของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ นักเรียนในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศมีประมาณ 7,000,000 คน จากข้อมูลพบว่าประสบปัญหาความยากจนจำนวน 1,696,433 คน ในจำนวนนี้ มี 600,000 คน ที่มีฐานะยากจนพิเศษ แบ่งเป็น ระดับประถมศึกษา จำนวน 430,000 คน และระดับมัธยมศึกษา จำนวน 180,000 คน ซึ่งที่ผ่านมา สพฐ.ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยให้เด็กกลุ่มนี้เป็นพิเศษ โดยระดับประถมจำนวน 500 บาทต่อคนต่อภาคการศึกษา และระดับมัธยมศึกษา 1,500 บาทต่อคนต่อภาคการศึกษา เป็นค่าใช้จ่ายค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน,ค่าวัสดุ เครื่องแต่งกายนักเรียน, ค่าอาหารกลางวัน และค่าพาหนะในการเดินทาง
สำหรับความร่วมมือกับ กสศ.โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนแบบมีเงื่อนไข ในสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ครั้งนี้ กสศ.จะสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม หรือ ท็อปอัปพิเศษให้แก่กลุ่มนักเรียนยากจนพิเศษ ในจำนวน 600,000 คน ทั้งระดับประถมฯ และมัธยมฯ ปีละ 1,600 บาทต่อคนต่อปี หรือภาคการศึกษาละ 800 บาทต่อคน โดย สพฐ.จะจัดสรรงบฯผ่านไปยังโรงเรียนเพื่อให้โรงเรียนส่งนำเข้าบัญชีเงินฝากของเด็กนักเรียนจำนวนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งอยู่ที่โรงเรียน แต่จะให้โรงเรียนทำแผนการใช้จ่ายสำหรับเด็กรายบุคคล และการโอนเงินให้เด็กนั้นทางโรงเรียนจะต้องมีเอกสาร หลักฐาน ที่แสดงชัดเจนเพื่อความสะดวกโปร่งใสในการตรวจสอบ
“ผมได้กำชับไปยัง ผอ.สพท. และ ผอ.โรงเรียนว่าให้กลุ่มงานส่งเสริมการจัดการศึกษา จัดทำระบบการจัเก็บข้อมูลและติดตามด้วยว่า เงินถึงมือเด็กแน่อนอน และให้ตรวจสอบด้วยว่าเด็กได้เงินแล้วมาเรียนปกติหรือไม่ และให้ติดตามผู้รับทุนการศึกษาทุกโครงการ รวมถึงผู้รับทุนการศึกษาพระราชทานในทุกพระองค์ จะต้องจัดทำระบบติดตามด้ว ทั้งนี้ กองทุน กสศ.เป็นกองทุนใหม่ที่เกิดจาการปฏิรูปการศึกษาและการปฏิรูประบบการจัดสรรงบประมาณ เพื่อนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย เป็นกองทุนที่จะเข้ามาช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ โดย กสศ.จะเติมงบส่วนนี้เข้าไปเพื่อให้เด็กมีโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกัน หรือใกล้เคียงกัน” นายบุญรักษ์ กล่าว
ด้าน นพ.สุภกร กล่าวว่า ตามที่ กสศ. ได้ร่วมกับ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และสพฐ. ได้ร่วมกันคัดกรองตามหลักวิชาการเพื่อหาเด็กนักเรียนที่มีฐานะยากจน โดยพิจารณารอบด้าน ทั้งรายได้ของครอบครัว สภาพบ้านพัก มีที่ดินทำกินหรือไม่ การประกอบอาชีพ มีคนที่ต้องดูแลรับผิดชอบหรือไม่ ซึ่งมีการเก็บข้อมูลมา 3 ปีแล้ว โดยในปีการศึกษา 2561 กสศ.จะมีการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่นักเรียนยากจนพิเศษที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นป.1-ม.3 โดยให้งบประมาณ 800 บาทต่อคนต่อภาคเรียน แบ่งการจัดสรรเงินออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆกัน คือส่งโดยตรงไปยังตัวเด็ก คือเป็นเงินอุดหนุนช่วยเหลือค่าครองชีพ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียน และค่าครองชีพระหว่างเรียน /จะส่งเงินงบประมาณผ่านโรงเรียน เป็นเงินอุดหนุนแก่สถานศึกษา เพื่อกิจกรรมการพัฒนานักเรียนยากจนให้มีทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ รวมถึงค่าอาหารที่ทางสถานศึกษาจัดหาให้เพิ่มเติม ในส่วนที่ยังไม่มีงบประมาณสนับสนุนในปัจจุบัน ซึ่งระหว่างเดือนต้นเดือนธันวาคม นี้ จะเป็นช่วงที่สถานศึกษาส่งรายชื่อนักเรียนที่เข้าเกณฑ์ยากจนพิเศษ จากผลการคัดกรองเมื่อภาคเรียนที่ 1/2561 ให้แก่ กสศ. โดย สพฐ. และ กสศ. จะเปิดโอกาสให้สถานศึกษาปรับปรุงรายชื่อให้เป็นปัจจุบัน
จากนั้น นักเรียนที่ขอรับการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษเพิ่มเติมจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง โดยครูประจำชั้นจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลรายได้ และสถานะความยากจนของเด็กเป็นรายบุคคลระหว่างกระบวนการเยี่ยมบ้านในเทอม 2/2561 ร่วมกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ จากนั้นคณะกรรมการสถานศึกษาจะพิจารณารับรองความถูกต้องของข้อมูล รายชื่อ และผลการคัดกรองทั้งหมดอีกครั้งก่อนส่งข้อมูลให้แก่ กสศ.
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าจะจัดสรรงบให้แก่โรงเรียนในสังกัด สพฐ. ประมาณวันที่ 15 ธ.ค.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี