วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ปี 2560 - 2564 ได้กำหนดให้มีการจัดทำพิกัดศุลกากรสำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติได้มอบหมายให้ สศก. เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมา สศก. ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ โดยมีมติเห็นชอบให้จัดทำรหัสสถิติต่อท้ายพิกัดศุลกากร ระยะที่ 1 สำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มอีก 5 ชนิด นอกเหนือจากข้าว ได้แก่ ใบชาเขียว มะพร้าวอ่อน กะทิสำเร็จรูป มังคุด และ ทุเรียน ตามประกาศกรมศุลกากร ที่ 45/2561 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมรหัสสถิติสินค้า ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม 2561 ไปแล้วนั้น
สศก. ได้ติดตามสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ดังกล่าว ตั้งแต่ประกาศกรมศุลกากรมีผลใช้บังคับ พบว่า การส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ 5 ชนิด ช่วง 7 เดือนมีปริมาณการส่งออกรวมทั้งสิ้น 720 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.08 ของปริมาณการส่งออกทั้งหมดของสินค้า 5 ชนิดนี้ และมีอัตราการขยายตัวของปริมาณการส่งออกสินค้าอินทรีย์เฉลี่ยในช่วง 7 เดือน อยู่ที่ร้อยละ 30.53 โดยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ 5 ชนิด รวมทั้งสิ้น 76 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.16 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของสินค้าทั้ง 5 ชนิด อัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยร้อยละ 105.15
สำหรับสินค้าที่มีปริมาณการส่งออกสูงสุดตามลำดับ คือ มะพร้าวอ่อนอินทรีย์ ทุเรียนอินทรีย์และทุเรียนอินทรีย์แช่เย็นจนแข็ง กะทิอินทรีย์สำเร็จรูป ใบชาเขียวอินทรีย์ และมังคุดอินทรีย์ โดยปริมาณการส่งออกและมูลค่าการส่งออก 3 ลำดับแรก ได้แก่
มะพร้าวอ่อนอินทรีย์ (มีนาคม - กันยายน 2561) 475 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.89 ของปริมาณการส่งออกมะพร้าวอ่อนทั้งหมด และมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 10.26 มูลค่าการส่งออกมะพร้าวอ่อนอินทรีย์ในช่วง 7 เดือน มีมูลค่า 20 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.25 ของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวอ่อนทั้งหมด ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกหลัก
ทุเรียนอินทรีย์และทุเรียนอินทรีย์แช่เย็นจนแข็ง (มีนาคม - กันยายน 2561) ส่งออก 193 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.04 ของปริมาณการส่งออกทุเรียนทั้งหมด ตลาดส่งออกหลักได้แก่ จีน ทั้งนี้ ทุเรียนอินทรีย์และทุเรียนอินทรีย์แช่เย็นจนแข็ง นับเป็นสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุด โดยช่วง 7 เดือน คิดเป็นมูลค่า 52 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.17 ของมูลค่าการส่งออกทุเรียนทั้งหมด
กะทิอินทรีย์สำเร็จรูป (มีนาคม - กันยายน 2561) ส่งออก 52 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.03 ของปริมาณส่งออกกะทิสำเร็จรูปทั้งหมด และมีมูลค่าการส่งออกช่วง 7 เดือน รวม 3 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.04 ของมูลค่าการส่งออกกะทิสำเร็จรูปทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของใบชาเขียวอินทรีย์ และ มังคุดอินทรีย์ ยังไม่มีการส่งออกมากนัก ทั้งนี้ สศก. จะเตรียมเสนอคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ เพื่อพิจารณาเห็นชอบให้จัดทำรหัสสถิติต่อท้ายพิกัดศุลกากรสำหรับชนิดสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มเติม ในระยะที่ 2 รวมทั้งกำหนดแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี