เป็นประเด็นที่เริ่มพูดถึงกันมากอีกครั้ง กับการ “ลด ละ เลิก ใช้ภาชนะ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพลาสติกทุกประเภท ตีปี๊บลดขยะอย่างจริงจัง” ไม่ให้ไปสร้างมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งหน่วยงานภาครัฐกระทรวง ทบวง กรม ต่างออกมาขานรับ วางแนวทางปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดอบรมเรื่อง “การลดและคัดแยกขยะมูลฝอย” ในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เป็นผู้กำหนดตัวชี้วัด ผู้บริหารหน่วยงานระดับกระทรวง และกรม 152 หน่วยงาน และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ตั้งเป้าลดปริมาณขยะมูลฝอยลง 5% ลดถุงพลาสติกหูหิ้วลง 10% ลดแก้วน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งลง 10% และลดโฟมบรรจุอาหารลง 100% ทั้งหมดทั้งมวลจะดำเนินการในปีงบประมาณ 2562 จึงต้องฝึกอบรม ทำความเข้าใจเพื่อให้ทุกหน่วยงานรับทราบเกณฑ์การประเมินตัวชี้วัดของผู้บริหารกระทรวง กรม และผู้ว่าราชการจังหวัด และรับทราบแนวทางดำเนินงานตามมาตรการลด และคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐ
อ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ขึ้นมา เนื่องด้วยหลายฝ่าย โดยเฉพาะภาคราชการเริ่มตื่นตัวทำเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งเมื่อนำไปผนวกกับภาคเอกชน ธุรกิจ ภาคประชาสังคมแล้ว หากทุกฝ่ายเดินหน้าจริงจังต่อเนื่อง ปัญหาขยะพลาสติกก็น่าจะทุเลาเบาบางลง ไม่ไปเพิ่มซ้ำเติมปัญหาเดิมที่หมักหมม รอวันจัดการอยู่ให้หนักหนาสาหัสขึ้นไปอีก
เมื่อทั้งภาครัฐ เอกชน เริ่มมีแผนเป็นรูปเป็นร่างให้เห็นแล้ว หันกลับมาดูตัวเองบ้าง เราแต่ละคนเคยประเมินกันบ้างหรือไม่ วันหนึ่งใช้พลาสติกกันมากน้อยแค่ไหน เพราะยิ่งใช้มาก ปริมาณขยะในโลกก็จะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ แค่เราใช้หลอดพลาสติก 1 หลอด ต่อวันต่อคน เพียงเท่านี้ ก็จะกลายเป็นขยะกี่หลายพันล้านชิ้นบนโลก ถ้านำมารวมกันคงกองสูงเป็นภูเขาเลากา
น่าสะพรึงไม่น้อย เนื่องจากการทำลาย การย่อยสลายต้องใช้เวลาหลายร้อยปีทีเดียว
ฉะนั้น เป็นไปได้หรือไม่ ถ้าจะให้การรณรงค์เลิกใช้ถุงพลาสติกได้ผลยั่งยืน โดยเริ่มต้นจาก “ตัวเรา”ก่อน ด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวันลงให้มากที่สุด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ถุง ไม่หลอด พกแก้วน้ำ ช้อนส้อม ขวดน้ำส่วนตัว พร้อมถุงผ้า ใช้ปิ่นโตหรือกล่องใส่อาหาร เชื่อว่าถ้าทุกคนปรับเปลี่ยนทัศนคติ มุมมองต่อการลดใช้พลาสติกในชีวิตประจำวันได้จริงจัง พร้อมกับคัดแยกขยะก่อนทิ้ง...ทุกอย่างก็จะง่าย กลายเป็นความเคยชิน เบื้องแรกยอมรับว่าอาจไม่สะดวกสบาย เพราะต้องพก ต้องหอบต้องหิ้ว อาจดูขัดเขินติดขัด ที่ต้อง
ปฏิเสธรับถุงใส่ของจากร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้า แล้วต้องพกถุงผ้าไปใส่ของเอง แต่เมื่อลงมือทำไปนานๆ ก็จะคุ้นชิน เป็นกิจวัตร ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น การเลิกใช้พลาสติก เพื่อลดขยะ ลดทำร้ายโลก จะเห็นผลยั่งยืน
ที่ว่ากระแสรณรงค์ปฏิเสธถุง แก้ว
พลาสติก โฟม รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง แบบเข้มข้น จริงจัง ดังรัวๆขึ้นมาอีก เนื่องจากอีกไม่กี่วันก็จะถึงวัน “สิ่งแวดล้อมไทย 4 ธันวาคม” ซึ่งบรรดาห้างสรรพสินค้า รวมถึงร้านสะดวกซื้อ จะพร้อมใจ “งดใช้ถุงพลาสติก” ทั่วประเทศ โดยประกาศผ่านเฟซบุ๊ค Campaign DEQP 9 โพสต์แคมเปญ “D-DAY 4 ธันวาคม 2561 นี้ ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ของดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว “พร้อมติดแฮชแทค # ทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับ-ลดให้-ลดใช้ถุงพลาสติกที่ตลาดสดแล้ว ที่ห้าง และร้านสะดวกซื้อก็ร่วมรณรงค์ งดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้วด้วย
นับว่าเป็นโอกาสที่ดี หากเราแต่ละคน จะฉวยใช้วันสิ่งแวดล้อมไทย เริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนคติ แล้วลงมือลดใช้พลาสติกในชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง!!! และทำต่อเนื่องให้เป็นกิจวัตร แค่เริ่มที่ตัวเรา ก็สามารถลดขยะพลาสติกหลากหลายชนิดได้ แม้จะน้อยนิด แต่ถ้าทุกคนคิดและลงมือทำพร้อมๆกันเสียแต่ตอนนี้ เชื่อว่าจะหยุดเพิ่มขยะบนโลกได้ไม่มากก็น้อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี