บุกยื่น800ชื่อจี้สนช.
แก้ไขกม.ยาเสพติด
สกัดผูกขาด‘กัญชา’
เลิกขอจดสิทธิบัตร
เครือข่ายกัญชาเพื่อการแพทย์หอบ 800 ชื่อ จี้สนช.แก้ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดฯที่เข้าพิจารณาวาระแรก23 พฤศจิกายน ให้ลดผูกขาดการใช้ประโยชน์กัญชา-กระท่อมทางการแพทย์ พร้อมบี้กรมทรัพย์สินฯยกเลิกคำขอจดสิทธิบัติสารสกัดกัญชาจากต่างชาติที่เหลือทั้งหมด ด้าน“ประพัฒน์”นำสภาเกษตรกร-สภาแพทย์แผนไทย ร้องด้วย ขอเปิดทางให้เกษตรกร – ประชาชนใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคได้ด้วย
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชน พร้อมสมาชิกเครือข่าย เข้ายื่นหนังสือพร้อมรายชื่อประชาชนประมาณ 800 รายชื่อ ที่รวบรวมผ่านเครือข่ายประชาสังคมกัญชา เพื่อการแพทย์สำหรับประชาชนถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านนายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) เพื่อเรียกร้องให้การพิจารณาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ วาระแรกของสนช.ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ให้การใช้ประโยชน์กัญชาและกระท่อมทางการแพทย์ จะต้องไม่ให้เกิดการผูกขาดการใช้ประโยชน์จากกัญชาไว้เฉพาะทางราชการ หรือต่างชาติ หรือเอกชนรายใดรายหนึ่ง
นายปานเทพกล่าวว่า ทางเครือข่ายฯเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลและสนช. 4 ประเด็นคือ 1.ต้องไม่ให้เกิดการผูกขาดการใช้ประโยชน์จากกัญชาไว้เฉพาะทางราชการหรือต่างชาติหรือเอกชนรายใดรายหนึ่งเด็ดขาด ต้องให้ผู้ป่วย ประชาชน และเอกชนสามารถใช้ประโยชน์เพื่อการแพทย์ได้ทั่วไป เพราะการผูกขาดจะไม่เกิดการแข่งขันด้านคุณภาพและราคา
2.ให้ยกเลิกคำขอการจดสิทธิบัตรกัญชาทุกฉบับโดยทันที ซึ่งปัจจุบันมีมากว่า 11 ฉบับ 3.หยุดสร้างอุปสรรคขัดขวางการสร้างนวัตกรรมและการวิจัย รวมถึงการใช้ข้ออ้างเรื่องงานวิจัยเพื่อจำกัดการใช้ประโยชน์ของกัญชาในทางการแพทย์ โดยขอให้รัฐบาลส่งเสริมทุกมหาวิทยาลัยสามารถวิจัยกัญชาได้โดยอิสระ และ4.ต้องปลดล็อคการใช้กัญชาให้แพทย์แผนไทย สามารถสืบสานภูมิปัญญาไทยด้านการแพทย์ได้
เนื่องจากรัฐมีหน้าที่ต้องทำตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560มาตรา 55 ในอันที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์
นายปานเทพกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยัง ขอให้สนช.เสนอรัฐบาลสั่งการให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาใช้อำนาจตามมาตรา 30 ในพ.ร.บ.สิทธิบัตร และมาตรา 51 พ.ร.บ.วิธีการปฏิบัติราชการทางปกครอง ยกเลิกคำขอจดสิทธิบัตรจากต่างชาติทั้งหมด เพราะถ้ายังปล่อยให้รอจดทะเบียนสิทธิบัตรสารสกัดเพื่อการแพทย์ล่วงหน้า อาจเอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติได้ประโยชน์เพียงกลุ่มเดียว และเรียกร้องให้การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้สามารถให้ผู้ป่วยและประชาชนสามารถเพาะปลูก ดำเนินทุกกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับกัญชาเพื่อประโยชน์การแพทย์ได้ รวมถึงการส่งออกต่างประเทศด้วย
“การให้ความเห็นชอบร่างดังกล่าว ในขณะที่ยังปล่อยให้มีการจดสิทธิบัตรสารสกัด การผลิต และวิธีการใช้สารสกัดกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ล่วงหน้านั้น เป็นการเอื้อประโยชน์ให้นักวิจัยและกลุ่มทุนต่างประเทศเท่านั้น เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 27 จึงขอให้แก้ไขในมาตรา 3 และมาตรา 6 โดยให้เพิ่มข้อความ...เป็นไปเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์สำหรับประชาชนเป็นการทั่วไปและได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต โดยตัดข้อความ “เฉพาะในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ “ออก และบัญญัติเพิ่ม(3) ในมาตรา 19 สถาบันอุดมศึกษาของรัฐหรือเอกชน ซึ่งทำการศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนในทางการแพทย์หรือเภสัชกรรม อีกทั้ง การกำหนดเขตพื้นที่ทดลองเพาะปลูกต้องไม่กระทบสิทธิของผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา 16,18และ19”นายปานเทพกล่าว
ขณะที่นายสมชายกล่าวว่า า สนช.พร้อมรับฟังทุกความเห็น เบื้องต้นได้เชิญอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญามาให้รายละเอียดคำขอจดสิทธิบัตรจากต่างชาติแล้ว ซึ่งได้รับการยืนยันว่ายังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะขัดกฎหมาย และยืนยันว่าการพิจารณาแก้กฎหมายเพื่อนำกัญชาและกระท่อมมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ต้องไม่ให้เกิดการผูกขาด ลดการนำเข้า
“การพิจารณาแก้ไขพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับนี้ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาให้ข้อมูล และน่าจะแล้วเสร็จวันที่ 22 มกราคม 2562 ก่อนส่งต่อให้ประธาน สนช.บรรจุลงวาระการประชุม สนช.วาระที่ 2 และ 3 ต่อไป”นายสมชายกล่าว
วันเดียวกัน นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมพล.ร.อ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทยเข้ายื่นหนังสือถึงนายสมชาย แสวงการ เลขานุการ วิปสนช.เรียกร้องให้รับรองกัญชา และกระท่อมให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางแพทย์แผนไทยได้ตามตำรับยา
โดยนายประพัฒน์กล่าวว่า ตามร่างที่สนช.เสนอ ไม่มีเรื่องที่เปิดให้แพทย์แผนไทยได้ศึกษาและใช้ประโยชน์จากกัญชาและกระท่อม จึงขอให้สนช.ดูประเด็นนี้ เพราะต้องการให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงการใช้ประโยชน์จากสารสกัดกัญชาและกระท่อมในการบำบัดอาการเจ็บป่วย อย่างที่ทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เพราะต้นทุนต่ำ ถ้าสนช.ต้องการข้อมูลเพิ่ม พวกตนพร้อมมาให้ข้อมูลชั้นกรรมาธิการฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี