แจ้งความรพ.พระราม2

หมอกับพวก

เอาผิดรวมทั้งหมด5ข้อหา

ไร้มาตรฐานสถานพยาบาล

ตำรวจจ่อเรียกสอบปากคำ

สบส. นำหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดกรณี รพ.พระราม 2ไม่รับรักษาสาวเหยื่อถูกสาดน้ำกรด เสียชีวิต โดยดำเนินคดี บริษัทพระราม 2 เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการ 2 ข้อหา และ นายแพทย์พีระ คณานุวัฒน์ แพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล 3 ข้อหา ตำรวจเตรียมรวบรวมข้อมูล ก่อนเรียกสอบปากคำ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน นายชาตรี พินใน นิติกรชำนาญการพิเศษ กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สบส. สธ.) พร้อมคณะทำงานนิติกรกองกฎหมาย สบส. เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.โกมินทร์ อ่อนเพชร์ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.น.9 ที่ สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีกับโรงพยาบาลพระราม 2 กรณีที่ไม่รักษา น.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน ที่ถูกสามีสาดน้ำกรด โดยลูกสาวพามาส่งรักษาที่โรงพยาบาลพระราม 2 เป็นที่แรก แต่ถูกปฎิเสธ เนื่องจากไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน จึงถูกส่งต่อไปโรงพยาบาลบางมด ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายชาตรี เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำเอกสารและผลมติประชุม สบส. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี 2 ส่วน คือ 1.แจ้งเอาผิด บริษัท พระราม 2 เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ รวม 2 ข้อหา คือ “ฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานสถานพยาบาล ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย” และ “ไม่ส่งต่อผู้ป่วยตามมาตรฐานสถานพยาบาล” 2.แจ้งเอาผิด นายแพทย์พีระ คณานุวัฒน์ แพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ที่มีชื่อในใบอนุญาตประกอบการสถานพยาบาล รวม 3 ข้อหา คือ “ฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานสถานพยาบาล ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย” “ไม่ส่งต่อผู้ป่วยตามมาตรฐานสถานพยาบาล” และ “ไม่ให้ผู้ประกอบการวิชาชีพปฎิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ”

“การแจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาลพระราม 2 ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามคำสั่งของอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เนื่องจากเห็นว่าเข้าข่ายความผิดที่สถานพยาบาลไม่รับรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด จึงมาแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีหน้าที่ดูแลสถานพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ ซึ่งต้องปฎิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนจะมีการดำเนินการความผิดอื่นเพิ่มหรือไม่ต้องนำเรื่องเข้ามติประชุมอีกครั้ง” นายชาตรี กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.โกมินทร์ เปิดเผยว่า วันนี้ตัวแทนของ สบส. เดินทางมาแจ้งความต่อโรงพยาบาลพระราม 2 ให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พร้อมนำเอกสารหลักฐานมาประกอบสำนวน ซึ่งหลังจากนี้ ทางตำรวจจะทำการรวบรวมข้อมูลและสอบปากคำต่อไป