28 พ.ย.61 กรณีชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกู้ซากเรือบรรทุกเรือ หรือเรือบาธ “ โชคอำนวย ” ขนาดเกือบ 1 พันตัน ซึ่งอับปางขวางร่องน้ำ บ้านท่าสูงบน หมู่ 2 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นอุปสรรคในการเดินเรือประมงมานานกว่า 1 ปี ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ประสานกรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งให้มีการกู้ซากเรือ และเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า พร้อมผู้บริหารระดับสูง ได้เข้าพบกับชาวประมงพื้นบ้านที่มารอพบ เพื่อร้องเรียนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับร่องน้ำ 

โดยได้เสนอข้อเรียกร้องให้ นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เร่งดำเนินการ เนื่องจากเห็นว่าเจ้าของเรือบรรทุกแร่ไม่มีขีดความสามารถในการดำเนินการได้ และแสดงความกังวลถึงหน้ามรสุมที่กำลังเข้ามาสู่ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะซากเรือที่ขวางร่องเดินเรือ ซึ่งนายสมศักดิ์ กล่าวขอโทษชาวบ้านที่การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างล่าช้า และยืนยันว่ากรมเจ้าท่าจะนำเครื่องจักร อุปกรณ์ พร้อมทั้งกำลังคนเข้ามาแก้ไขปัญหาก่อนได้ โดยขณะนี้ได้ทำแผนแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในเวลาไม่เกิน 45 วัน หลังจากนั้น จะมีขั้นตอนในการดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนกฎหมายกับเจ้าของเรือ ตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 พ.ย.) นายสุพงษวิณัย ชูยก นายอำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้เป็นประธานในการประชุมหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าการเก็บกู้ซากเรือ ที่ล่มบริเวณปากอ่าวท่าศาลาบ้านท่าสูงบน หมู่ที่ 2 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายวิชัย คำคม ผอ.สำนักเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า และสำนักงานเจ้าท่านครศรีธรรมราช โดยมีนายสันติสุข กิจบาลจ่าย ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายพันธกานต์ รัชณรงค์ ปลัดอำเภอ หัวหนาฝ่ายป้องกัน พร้อมแกนนำชาวบ้านและชาวประมง อ.ท่าศาลา โต๊ะอิหม่าม ประมิสยิดท่าสูงบน รวมทั้งทีมเก็บกู้ซากเรือจากบริษัทโชคหิรัญ จำกัด ซึ่งกรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างมาทำการกู้ซากเรือบรรทุกเรือลำดังกล่าว

สำหรับเรือโชคอำนวยได้ล่มบริเวณปากอ่าวท่าศาลา ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.61 ซึ่งล่วงเลยเวลามาแล้วเกือบ 1 ปี ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 พ.ย.61 ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้า ได้ลงพื้นที่ หมู่ 4 ต.ท่าศาลา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการเก็บกู้โดยระบุว่าจะต้องเก็บกู้ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน

โดยจากการติดตามผลความคืบหน้าทีมช่างกู้ซากเรือได้รายงานความคืบหน้าว่า ในขณะนี้ทีมช่างสามารถตัดเหล็กและเก็บกู้ซากเรือที่จมในน้ำลึก 6 เมตร โดยการดึงด้วยเรือเครนขนาดใหญ่ขึ้นจากน้ำได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของลำเรือ โดยซากเรือที่เก็บกู้ได้ทางเจ้าของเรือนำขึ้นฝั่งเพื่อเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานก่อนจะนำไปทำลายทิ้ง ในขณะนี้ทีมเก็บกู้ซากเรืออยู่ระหว่างการเป่า/ดูดตะกอนออกจากลำเรือ เพื่อลากจูงส่วนลำตัวของเรือเข้าฝั่งต่อไปโดยคาดว่าประมาณ  4 - 5  วัน ก็จะดำเนินการได้สำเร็จ แต่หากติดปัญหาประการใดจะแจ้งให้กรมเจ้าท่า/ ปลัดอำเภอ /นายอำเภอทราบทันที ในเบื้องต้นทีมกู้ซกเรือยังไม่ปัญหาอื่นๆ ที่จะทำให้การกู้ซากเรือล่าช้ากว่าที่กำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าจากการที่กรมเจ้าท่า เอาจริงเอาจังกับการกู้ซากเรือ “โชคอำนวย” ที่ลมขวางปากอ่างมานานเกือบ 1 ปี ทำให้ ชาวบ้าน/โต๊ะอิหม่าม/ชาวประมง และผู้ประกอบการทางทะเลรู้สึกพอใจในแผนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ และคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นตามเวลาที่กำหนด ซึ่งชาวบ้านเฝ้าติดตามให้กำลังใจกับทีมกู้ซากเรือเป็นอย่างดีและต่อเนื่อง โดยระหว่างนี้เชื่อว่าอุบัติเหตุการสัญจรทางทะเลไม่น่าจะเกิดขึ้น และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่ช่วยเสนอข่าวพร้อมประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับเฝ้าติดตามความคืบหน้าการกู้ซากเรือโชคอำนวย อย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ต้น