" บิ๊กฉัตร” ลุยตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เลย หวังแก้ท่วม-แล้ง จ.เลย อย่างยั่งยืน ตั้งเป้าแล้วเสร็จปี 2565 ตามแผน
28 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และ คณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดําริ อ.เชียงคาน จ.เลย และ เดินทางไปยังจุดพบปะประชาชน ณ วัดหนองข่า ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย จากนั้นรองนายกรัฐมนตรี ได้แวะเยี่ยมชมแบบจำลองพื้นที่โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ โดยมีนายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวต้อนรับ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวรายงาน คณะผู้บริหาร ฯ นายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ ตลอดจนข้าราชการในสังกัดสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 12 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กรมชลประทาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ราษฎรในพื้นที่ อ.เชียงคาน กว่า 1,000 คน ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นสักขีพยานมอบค่าทดแทนที่ดินให้กับราษฎรในพื้นที่โครงการ จำนวน 8 ราย พร้อมอบนโยบายให้กับข้าราชการ และ พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนชาว อ.เชียงคาน แล้วเดินทางต่อไปยังบริเวณพื้นที่หัวงานโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากนายยุทธนา มหานุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 12 (โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เชียงคาน จ.เลย) สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กรมชลประทาน
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จ.เลย เป็นหนึ่งจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนและลำน้ำสาขาต่างๆ ที่ไหลมาบรรจบกัน ซึ่งเกิดจากน้ำป่าไหลหลากจนลำน้ำสายหลักไม่สามารถระบายได้ทัน มีสิ่งกีดขวางทางน้ำในเขตเมือง รวมทั้งบริเวณปากแม่น้ำโขงมีลักษณะคดเคี้ยว การระบายน้ำออกแม่น้ำโขงทำได้ช้า โดยแม่น้ำเลย มีความยาว 231 กม. มีต้นน้ำจากดอยภูหลวง ไหลผ่าน อ.ภูหลวง อ.วังสะพุง อ.เมือง จ.เลย และไหลลงแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงคาน จ.เลย มีพื้นที่ลุ่มน้ำ 3,560 ตร.กม. แม่น้ำเลยเป็นแม่น้ำสายสั้น แต่มีพื้นที่รับน้ำมาก ในฤดูฝน น้ำจะมีน้ำจำนวนมาก ไหลหลากลงพื้นที่ตอนล่างทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ขณะที่ในฤดูแล้งไม่มีน้ำใช้ เนื่องจากพื้นที่มีความลาดชันสูง ไม่สามารถสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ได้ ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มน้ำเลย ต้องเผชิญทั้งน้ำท่วม-น้ำแล้งอยู่เป็นประจำ
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2520 ในหลวง ร.9 ทรงมีพระราชดำริ “ควรพิจารณาสร้างฝายทดน้ำหรือเขื่อนทดน้ำตามความเหมาะสมในลำน้ำเลยตอนล่าง เพื่อส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกผืนใหญ่สองฝั่งแม่น้ำเลย” จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่คั่งค้างอยู่ ที่รัฐบาลนี้ได้เร่งรัดโดยเฉพาะโครงการที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งซ้ำซาก จึงให้กรมชลประทานพิจารณาเร่งรัดโครงการก่อสร้าง ปตร.ศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่ง ครม. ได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 60 งบประมาณ 5,000 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี (ปี 2562 - 2565)
“ โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วย ปตร.ศรีสองรัก (ช่องลัด), ปตร.ในลำน้ำเดิม (แม่น้ำเลย), สถานีสูบน้ำ 5 แห่ง พร้อมระบบส่งน้ำด้วยท่อ ความยาวรวม 99 กม. ครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์ 72,500 ไร่ สถานภาพโครงการปัจจุบัน กรมชลประทานได้ดำเนินการประกวดราคาแล้วได้ต่ำกว่าราคากลาง ร้อยละ 35.2 ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอกระทรวงเกษตรฯ อนุมัติรับราคา ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มพื้นที่ชลประทานฤดูฝน 72,500 ไร่ และฤดูแล้ง 18,100 ไร่ ขณะเดียวกัน ยังเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค บรรเทาอุทกภัยในฤดูน้ำหลาก เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 4,600 บาท/ไร่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของ อ.เชียงคาน มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 207 ล้านบาท/ปี “
ด้านนายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) กล่าวว่า การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สทนช. ได้วิเคราะห์พื้นที่แก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างเป็นระบบ (Area Based) ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีทั้งสิ้น 16 พื้นที่ รวม 11.85 ล้านไร่ แบ่งเป็น 14 พื้นที่ปัญหา (ท่วม+แล้ง 13 พื้นที่ และแล้ง 1 พื้นที่) รวม 11.81 ล้านไร่ และ 2 พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ 0.04 ล้านไร่ โดยจังหวัดเลยเป็น 1 ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2557-2561 การพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดเลย มีหน่วยงานที่เข้าไปดำเนินการรวม 13 หน่วยงาน มีโครงการทั้งหมดรวมจำนวน 710 โครงการ เพิ่มความจุเก็บกักรวมทั้งสิ้น 59.60 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 127,221 ไร่ ประชาชนรับประโยชน์ 40,100 ครัวเรือน อย่างไรก็ตาม แผนการพัฒนาตามยุทธศาสตร์การบริหารทรัพยากรน้ำที่ สทนช. ได้วางไว้ในจังหวัดเลย ประกอบด้วย 4 แผนงานสำคัญ คือ 1.การพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ประมาณ 1 ล้านไร่ 2.ระบบประปาใน จ.เลย รวม 825 หมู่บ้าน ยังขาดระบบประปาที่ต้องเร่งขับเคลื่อนอีก 41 หมู่บ้าน 3.งานพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำเลย โครงการพระราชดำริทั้งหมด 27 โครงการ แบ่งเป็น โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 23 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 โครงการ คือ โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เชียงคาน จ.เลย โครงการฝายบ้านนานกปีดพร้อมระบบส่งน้ำ ต.ห้วยบ่อซืน อ.ปากชม จ.เลย และโครงการจัดหาแหล่งน้ำช่วยเหลือ รร.ตชด.บ้านวังชมภู (เก็บกักน้ำฝน) ต.ทรัพย์ไพวัลย์ อ.เอราวัณ จ.เลย และ โครงการพระราชดำริ ที่ต้องเร่งรัดดำเนินการอีก 1 โครงการ คือ โครงการจัดหาแหล่งน้ำช่วยเหลือ รร.ตชด.บ้านนานกปีด (เก็บกักน้ำฝน) ต.ห้วยบ่อซืน อ.ปากชม จ.เลย และ 4. แผนงานพัฒนาแหล่งน้ำปี 2561 – 2565 รวม 15 โครงการ นายสำเริง กล่าว.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี