จากกรณีคดีนายแบงค์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. รัวยิง น.ส.ภัทรนรี มณีกูล (เอ๋) อายุ 37 ปี หมอนวดสาวสวยประจำร้านคาราโอเกะในพื้นที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 3 นัดซ้อน จนตายคาที่หน้าบ้านเลขที่ 7/2 หมู่ 3 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก หลังก่อเหตุนายแบงค์ ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีดำ ทะเบียน กอ - 7912 สุราษฎร์ธานี หลบหนีไปจอดทิ้งริมถนนสายนครศรีธรรมราช – สุราษฎร์ธานี พื้นที่ ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะหลบหนีหายไป โดยสาเหตุมาจากความหึงหวงฝ่ายชายระแวงฝ่ายหญิงจะปันใจไปมีชายอื่นจนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ซึ่งทาง พ.ต.อ.เธียร บาลทิพย์ ผกก.สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งระดมตำรวจชุดสืบสวนออกไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้แล้ว
ความคืบหน้าวันที่ 10 ธ.ค.61 พ.ต.อ.เธียร บาลทิพย์ ผกก.สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาหลักฐาน และสอบปากคำเพื่อนผู้ตาย ทราบว่า นายแบงค์ ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อว่านายปฐพงษ์ หรือ แบงค์ พรมเดช อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234 หมู่ 5 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ทางพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานและได้เสนอขออนุมัติศาลออกหมายจับนายปฐพงษ์ หรือ แบงค์ คนร้ายราย ล่าสุดศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อนุมัติออกหมายจับนายปฐพงษ์ หรือ แบงค์ พรมเดช ตามหมายจับเลขที่ 484/2561 ลงวันที่ 9 ธ.ค.2561 ซึ่งตนได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามไล่ล่าตัวนายปฐพงษ์ หรือ แบงค์ ผู้ต้องหารายนี้ มาดำเนินคดีโดยเร็ว ทราบว่านายปฐพงษ์ หรือ แบงค์ หลบหนีกบดานในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวนายปฐพงษ์ หรือ แบงค์ ได้ในเร็วๆ ส่วนศพ น.ส.ภัทรนรี หรือ เอ๋ ทางญาติ ที่ จ.พิจิตร ได้เดินทางมารับศพไปจัดการตามศาสนาแล้วที่บ้านเกิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี