สตม.จับแก๊งอิหร่านหลอกญี่ปุ่นเที่ยวฟรี แฉวิธีใหม่ลวงหิ้วกระเป๋าซุกเสื้อผ้าชุบ‘ไอซ์’
10 ธ.ค.61 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ , พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ , พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน , พ.ต.อ.วิญญู อำนวยสมบัติ รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.สมชาย เดชแพ ผกก.1 บก.สส.สตม.ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชาวอิหร่านลักลอบขนยาเสพติด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.61 พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม.ได้รับการประสานจากสถานเอกอัครราชทูต(สอท.) ญี่ปุ่น ประจําประเทศไทย ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ถูกหลอกให้มาท่องเที่ยวฟรี แล้วขนสิ่งของน่าสงสัย จึงได้มอบหมายให้ ผบก.สส.สตม. ประสานงานกับ สอท.ญี่ปุ่น เพื่อตรวจสอบ
เบื้องต้นทราบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ถูกหลอกจากเว็บไซด์ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ว่า จะจัดโปรแกรมท่องเที่ยวต่างประเทศให้ฟรี โดยได้ตกลงจัดโปรแกรมให้มาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นที่แรก ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.61 ต่อมาคนจากเว็บไซด์ดังกล่าวได้แจ้งว่าให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรับกระเป๋าเดินทางจากทีมงานที่ประเทศไทย แล้วเตรียมเดินทางต่อไปที่กรุงเซียงไฮ้ ประเทศจีน และต่อไปยังปลายทางที่กรุงแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยได้ให้เงินเป็นค่าใช้จ่ายกว่า 2 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเปิดดูสิ่งของในกระเป๋าเดินทางดังกล่าว พบมีเสื้อผ้าลักษณะแข็งผิดปกติ จึงเริ่มสงสัยและตัดสินใจเข้าขอคำปรึกษากับ สอท.ญี่ปุ่น ซึ่งได้ประสานงานกับ บก.สส.สตม.เข้าตรวจสอบ เชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้วางแผนให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นคนดังกล่าวไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ และขอให้ส่งคนมากระเป๋าเดินทางคืนกลับไป ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 7 ธ.ค.61 มีนายมูฮัมหมัด อาลี อีซาซี่ สัญชาติอิหร่าน อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้นำกระเป๋าเดินทางมาส่งให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น มารอรับกระเป๋าเดินทางกลับคืน
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและจับกุม พร้อมตรวจค้นภายในกระเป๋าเดินทาง พบเสื้อผ้าที่มีลักษณะแข็งเนื่องจากชุบสารยาเสพติดไว้บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 4 ห่อ ซึ่งเป็นวิธีใหม่ที่ไม่ค่อยได้พบในประเทศไทย และพบยาเสพติด ไอซ์ ชนิดเกร็ดสีขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสห่อด้วยกระดาษคาร์บอนสีดำ จำนวน 6 ห่อ ซุกซ่อนติดอยู่ผนังด้านข้างด้านในของกระเป๋าเดินทาง โดยมีฟองน้ำปิดทับและมีผ้าสีดำปิดทับอีกชั้นหนึ่ง จากตรวจสอบพบ ไอซ์ น้ำหนักรวม 2.285 กก.
ต่อมาได้ทำการขยายผลจากกล้องวงจรปิดและเอกสารต่างๆ จึงได้เข้าทำการตรวจค้นอีก 2 จุด คือห้องพักคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งภายใน ซ.พัฒนาการ 42 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.สามารถตรวจยึดกระเป๋าเดินทางแบบเดียวกัน ซึ่งมีร่องรอยเคยซุกซ่อนยาเสพติด จำนวน 1 ใบ พร้อมของกลางอื่นๆ
จากนั้นได้ทำการตรวจค้นจุดที่ 2 ห้องพักคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งภายใน ซ.พัฒนาการ 26 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.สามารถตรวจยึดกระเป๋าเดินทางแบบเดียวกัน ซึ่งซุกซ่อน ไอซ์ ไว้แบบเดียวกันอีก จำนวน 5 ห่อ น้ำหนักรวมประมาณ 1.365 กก. พร้อมอุปกรณ์สำหรับการดัดแปลงและซุกซ่อนยาเสพติดเพื่อลักลอบขนออกนอกประเทศไปประเทศต่างๆ ทั้งในทวีปเอเชีย และยุโรป สรุปชุดจับกุมสามารถยึด ไอซ์ได้น้ำหนักรวมทั้งหมด 3.65 กก. และเสื้อผ้าที่ชุบสารละลายไอซ์ น้ำหนักรวม 5.845 กก.
นายมูฮัมหมัด ให้การยอมรับว่า เป็นผู้นำกระเป๋าเดินทางที่มียาเสพติดไปให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเอง โดยได้รวมกับเพื่อนชาวอิหร่านและเครือข่ายที่ประเทศญี่ปุ่น หลอกชาวญี่ปุ่นให้ท่องเที่ยวต่างประเทศฟรี แล้วให้ถือกระเป๋าซุกซ่อนยาเสพติดเข้าไปในประเทศต่างๆ
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหานายมูฮัมหมัด ว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ต่อไป หลังจากนี้จะทำการสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น โดยร่วมมือกับตำรวจญี่ปุ่น เพื่อทลายแก๊งยาเสพติดนี้ต่อไป
# ขอบคุณภาพและข้อมูลข่าวจาก1. พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.อก.สตม. และโฆษก บก.อก.สตม. 2. พ.ต.อ.หญิง เอกอาภา ตันศิริ รองโฆษก บก.อก.สตม. และ 3. พ.ต.ต.หญิง วัชรี ศรีเผือก สว.ประชาสัมพันธ์ และเลขานุการโฆษก บก.อก.สตม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี