ชาวสวนยางจากหลายอำเภอที่ จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่เป็นเจ้าของสวนและคนกรีด ยังแห่มาลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสร้างความเข้มแข็งฯ เพื่อรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลไร่ละ 1,800 บาทคึกคัก  ขณะเกษตรกรผู้ปลูกยางในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนช่วยเหลือเช่นเดียวกัน 

13 ธ.ค.61 เกษตรกรชาวสวนยางพารา จากหลายอำเภอที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งที่เป็นเจ้าของสวนและคนกรีดยาง  ยังแห่นำเอกสารหลักฐานมาขอลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรยาง พ.ศ. 2561-2562  ที่สำนักงานการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดบุรีรัมย์ อย่างคึกคัก หลังจาก ครม.อนุมัติเงินช่วยเหลือชาวสวนยางไร่ละ 1,800  บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่   เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรชาวสวนยางที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำ 

ทั้งนี้ ยังมีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์  แต่เคยแจ้งชื่อเป็นเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราไว้จำนวนหลายราย  มาสอบถามรายละเอียดเพื่อจะขอรับสิทธิ์การช่วยเหลือในโครงการดังกล่าวเช่นเดียวกัน   แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคุณสมบัติไม่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในโครงการฯ โดยคุณสมบัติของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องเป็นเกษตรกรที่มีสวนยางในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ และเปิดกรีดแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน  และจะต้องขึ้นทะเบียนไว้กับ กยท. ก่อนวันที่ 14 พ.ย. 2561   

ซึ่งจากข้อมูลพบว่า จ.บุรีรัมย์ มีผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์กว่า 10,000 ราย  แต่ที่เปิดกรีดและคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ประมาณ 5,051 ราย

นางพิล พรบุญ อายุ 59 ปี เกษตรกรผู้ปลูกยางพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาทบทวน ช่วยเหลือชาวสวนยางที่ปลูกในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ด้วยเช่นกัน  เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน  เพราะถือว่าเป็นเกษตรกรที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำเหมือนกันแต่กลับไม่ได้รับสิทธิ์  ก็อยากให้รัฐบาลเห็นใจหาแนวทางช่วยเหลือด้วย

ด้านนายดิษฐเดช วัฒนาพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต ด้านแผนและวิชาการ การยางแห่งประเทศไทย เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง  กล่าวว่า  สำหรับขั้นตอนการดำเนินการก็จะติดประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ ณ ที่ทำการกำนัน หรือผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่สวนยางตั้งอยู่ และเปิดรับแจ้งเข้าร่วมโครงการฯ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 61 - 28 ก.พ. 62 จากนั้นคณะกรรมการบริหารโครงการฯ จะดำเนินการตรวจสอบและรับรองสิทธิ์ หากคุณสมบัติผ่านตามหลักเกณฑ์ จะส่งบัญชีรายชื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายเงินผ่านบัญชีของชาวสวนยาง โดยคาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินได้ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้   ซึ่งขณะนี้ทาง กยท.ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่รับสมัครเกษตรกรผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่  เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระให้กับเกษตรกรด้วย