15 ธ.ค. 61 วานนี้ ( 14 ธ.ค. ) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา หน่วยบัญชาการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมกันจับกุมนายกฤษดา ไชยแค อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 284/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. 2557 ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,กระทำให้เกิดการระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ,มีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและให้ใช้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน และฝ่าฝืน ประกาศ ข้อกำหนด ที่ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิดออกนอกเคหะสถาน ตามพรบ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โดยจับกุมได้ที่ชายแดนไทย ใกล้กับด่านจ.สระแก้ว ขณะพยายามหลบหนีเข้าเมือง
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากนายกฤษดา เป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปาระเบิดใส่เวทีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่ขณะนั้นปักหลักบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีนายถาวร เสนเนียม เป็นแกนนำควบคุมกำลังอยู่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีการจับกุมไปกบดานอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบความเคลื่อนไหวที่ประเทศกัมพูชา จึงได้เดินทางเข้าพบพล.ท.แซมวัน วีระ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือการทำงานร่วมระหว่างทางการไทยและทางการกัมพูชา ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ โดยทางการกัมพูชาและทางการไทยสนธิกำลังปูพรมลงพื้นที่สืบสวนตามข้อมูลที่ทางตำรวจไทยประสาน กระทั่งผู้ต้องหารายนี้ทนแรงกดดันไม่ไหวตัดสินใจข้ามกลับมาฝั่งไทยเพื่อมอบตัว และถูกคุมตัวได้ใกล้ด่านตม.สระแก้ว อ.คลองลึก
รายงานข่าวแจ้งว่า ทันทีที่ชุดทำงานของพล.ต.อ.สุชาติ และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สามารถคุมตัวนายกฤษดา ทางพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้รายงานตรงต่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้รับทราบถึงผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในคดีความมั่นคงรายนี้
เบื้องต้นจากการสอบปากคำนายกฤษดาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ก่อเหตุความไม่สงบในห้วงระหว่างปี 2557 โดยทำมาทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกก่อเหตุปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้ารพ.ราชวิถี และครั้งที่ 2 ก่อเหตุที่บริเวณบรรทัดทอง ปาระเบิดใส่ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. นอกจากนี้ยังร่วมอยู่ในเหตุการณ์ก่อความไม่สงบทางการเมืองในหลายครั้ง โดยในวันก่อเหตุได้นำระเบิดไปที่บริเวณจุดดังกล่าวจากนั้นก็ดึงสลักก่อนที่จะเขวี้ยงและวิ่งหนีไปโดยที่ไม่ได้หันมามองข้างหลังว่าระเบิดที่ปาไปส่งผลให้ใครได้รับบาดเจ็บบ้าง โดยไม่รู้สึกผิดที่ทำให้เกิดการเจ็บตายในครั้งแรก กระทั่งหลบหนีออกนอกประเทศจึงรู้สึกได้ว่าได้ก่อเหตุร้ายแรงลงไป ทั้งความเป็นอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นไปอย่างยากลำบาก และห่วงด้วยว่าจะถูกไล่เก็บจากพวกเดียวกันเนื่องจากมีค่าหัวกว่า 7 แสน.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี