กรมส่งเสริมสหกรณ์ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เน้นย้ำสหกรณ์ฯใช้งบคุ้มค่า ถูกต้อง โปร่งใส มุ่งพัฒนาภาคเกษตร หลังหนุนงบก่อสร้างอุปกรณ์การตลาด สร้างระบบกลไกการกักเก็บผลผลิตทางการเกษตร รักษาเสถียรภาพราคาไม่ให้ตกต่ำ หวังช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้ที่มั่นคง

นายคำรณ พวงมณี ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 16,17 เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรจัดเก็บผลผลิตทางการเกษตร (แก้มลิง) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้รับจัดสรรงบประมาณจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของรัฐบาล วงเงิน 1,768 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพสามารถดำเนินการก่อสร้างอุปกรณ์การตลาด และการจัดซื้อครุภัณฑ์การเกษตรที่จำเป็นต่อธุรกิจรวบรวมและแปรรูปผลิตผลการเกษตร เพื่อสร้างระบบกลไกการกักเก็บผลผลิตทางการเกษตร ช่วยรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิตเกษตรในพื้นที่ไม่ให้ตกต่ำ ซึ่งที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการดำเนินโครงการ อย่างเข้มงวด เพื่อให้การก่อสร้างอุปกรณ์การตลาดของแต่ละสหกรณ์ เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด มีความถูกต้อง โปร่งใส เมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจรับงานเสร็จแล้ว สหกรณ์ควรใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์การตลาดที่ได้รับอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ด้านนายประภาส งามสงวน ประธานกรรมการสหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด สหกรณ์แห่งแรกของประเทศไทย ได้รับการจัดสรรงบประมาณผ่านโครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรจัดเก็บผลผลิตทางการเกษตร (แก้มลิง) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน เพื่อใช้ในการก่อสร้างลานตากผลผลิตเกษตร ขนาด 3,200 ตารางเมตร, การก่อสร้างฉาง ขนาด 2,000 ตัน และการจัดซื้อรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งขณะนี้ สหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด ได้เปิดจุดบริการรวบรวมและรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกแล้ว มีปริมาณผลการรวบรวม จำนวน 838 ตัน มูลค่า 6,346,410 บาท

ทั้งนี้ สหกรณ์ฯ พร้อมที่จะเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนงานนโยบายต่างๆ เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีแหล่งจำหน่ายผลผลิตที่แน่นอน และเปิดช่องทางที่จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจในรูปแบบประชารัฐ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ให้ได้รับความเป็นธรรมด้านราคา และมีรายได้ที่มั่นคงต่อไป