17 ธ.ค.61 กรณีเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) ด.ช.ศุภกิจ ไชยคง อายุ 10 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 3 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด ถูกกระแสน้ำพัดหายตกลงไปในห้วย ณ บ้านมาบเอื้อง หมู่ 2 ต.วังอ่าง หลังเกิดเหตุทางผู้นำท้องถิ่น/ท้องที่ ต.วังอ่าง ต.เกาะขันธ์ ,ต.เขาพระทอง รวมทั้ง อปพร. ทหาร และพี่น้องชาวบ้าน ต.วังอ่าง ระดมกำลังช่วยกันค้นหาตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นานหลายชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบ โดยพบเพียงรองเท้า และเสื้อของน้องที่ใส่ตะกร้ารถจักรยาน ซึ่งลอยอยู่ในห้วยห่างจากที่เกิดเหตุไม่มากนัก อย่างไรก็ตามการค้นหายังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ความคืบหน้าล่าสุด นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และตรวจติดตามการปฏิบัติภารกิจค้นหา ด.ช.ศุภกิจ ไชยคง อายุ 10 ปี ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปในห้วย ณ บ้านมาบเอี้ยง หมู่ 2 ต.วังอ่าง อ.ชะอวด โดยการค้นหามีชุดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการค้นหาประกอบด้วย ตชด.427 กำลังทหารจาก ส.พัน 5 พล.ร.5 สภ.ชะอวด และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิชางเต็กเซี่ยงตึ้ง พัทลุง ,สมาคมหน่วยกู้ภัยชะอวด ,กู้ภัยนคร เขตอำเภอจุฬาภรณ์ พร้อมเรือท้องแบนและนักประดาน้ำ ระดมกำลังช่วยค้นหาจุดที่ ด.ช.ศุภกิจ พลัดตก และขยายการค้นหาครอบคลุมทั้งห้วย แต่การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำยังเชี่ยวกราดประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง 

รวมทั้งจุดที่ ด.ช.ศุภกิจ พลัดตกลงระดับน้ำลึกกว่า 6 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาการค้นหาตลอดทั้งวัน แต่ยังไร้วี่แววกระทั้งค่ำ จึงถอนกำลังการค้นหาชั่วคราว เนื่องจากระดับน้ำจุดเกิดเหตุเริ่มเพิ่มสูงขึ้นและเชี่ยวกราด ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับชุดค้นหาได้ จึงยุติการค้นหาชั่วคราว ก่อนจะวางแผนการค้นหาและเริ่มการค้นหาในเช้าวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.)   

ขณะที่บริเวณคลองอ้น พื้นที่หมู่ 10 ต.กรุงชิง อ.กรุงชิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยกรุงชิง ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านหมู่ 10 ต.กรุงชิง ให้ช่วยขนย้ายผู้ป่วยเป็นชาย อายุ 70 ปี ออกจากบ้านไปส่งโรงพยาบาล เนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วมสูง ประกอบเส้นทางสัญจรผ่านบริเวณคลองอ้นถูกกระแสน้ำป่าที่เชี่ยวกราดท่วมจนมิดไม่เห็นทางเดิน เกรงว่าผู้ป่วยจะได้รับอันตราย จึงนำกำลังพร้อมเชือกใช้ผูกโยงเป็นสะพานลิงชั่วคราว เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ผูกติดลำตัวขนย้ายผู้ป่วยฝ่ากระแสน้ำป่าที่เชี่ยวกราด ท่ามกลางความลุ้นระทึกและทุลักทะเล แต่สุดท้ายการขนย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่เป็นไปด้วยความสำเร็จ ก่อนจะนำผู้ป่วยขึ้นเปลสนาม นำไปส่งโรงพยาบาล  

ด้านจังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม ได้รับผลกระทบแล้ว จำนวน 20 อำเภอ 130 ตำบล 849 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 64,823 ครัวเรือน 142,875 คน สถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 12 ประกาศปิดการเรียนการสน จำนวน 83 แห่ง มีรายงานผู้สูญหาย จำนวน 2 ราย ในพื้นที่อำเภอชะอวด และอำเภอร่อนพิบูลย์

โดยศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย ดินถล่มและคลื่นลมแรง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ห้วงระหว่างวันที่ 15 -16 ธันวาคม 2561 โดยพบว่าขณะนี้ความเสียหายจากสถานการณ์ดังกล่าว สร้างความเสียหายกระจายครอบคลุมพื้นที่ 20 อำเภอ 130 ตำบล 849 หมู่บ้าน มีรายงานตัวเลขประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว จำนวน 64,823 ครัวเรือน รวม 142,875 คน สถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต1-4 และสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 12 ประกาศปิดการเรียนการสอน จำนวน 83 แห่ง และมีรายงานผู้สูญหาย จำนวน 2 ราย ในพื้นที่อำเภอชะอวด และอำเภอร่อนพิบูลย์

ส่วนการเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้นายอำเภอทุกอำเภอ ฝ่ายทหาร ตำรวจ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และสำนักงานสาขาทุกแห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่/ผู้นำชุมชน และเครือข่ายอาสาสมัครลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น มีการเปิดจุดอพยพเพื่อให้ผู้ประสบภัยได้พักอาศัยเป็นการชั่วคราว ทั้งในส่วนของโรงเรียนในพื้นที่ที่ประสบภัย โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และอาคารโรงละคร องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช บริเวณสนามหน้าเมือง ขณะที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์(หญ้าแห้ง) จากศูนย์วิจัยและอาหารสัตว์นครศรีธรรมราช แก่เกษตรกรในพื้นที่ประสบภัย 5 อำเภอ รวม 10,000 ฟ่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นด้วย