“สภาเกษตรกรแห่งชาติ” พร้อมคัดเลือกเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศเข้าร่วมปลูก“กัญชา”ส่งภาครัฐ เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ หวังเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่สร้างรายได้ หวั่นทุนใหญ่ไทย-เทศผูกขาด
20 ธ.ค.61 นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นประธานเปิด โครงการสัมมนาการพัฒนาสายพันธุ์กัญชาพืชสมุนไพรไทยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และภาคเกษตรกรรม เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงความหลากหลายของสายพันธุ์กัญชา และสรรพคุณทางยาของแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งการสัมมนามีทั้งสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ หน่วยงานราชการ เครือข่ายภาคประชาสังคมภาคเอกชน และเกษตรกร ในการร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ โรงแรมไมด้า ดอนเมือง แอร์พอร์ต หลักสี่ กรุงเทพฯ
นายประพัฒน์ กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งข่าวถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขกฎหมายกัญชา และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ เนื่องจากอดีตที่ผ่านมา กัญชาไทยถูกส่งออกในหลายประเทศ ตั้งแต่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม แต่หลังจากนั้นถูกควบคุมด้วยกฎหมายยาเสพติด ทำให้การส่งออกกัญชาในสมัยอดีตต้องหยุดชะงักลง จึงทำให้เกิดกังวลว่าสายพันธุ์กัญชาไทยอาจสูญหาย แต่อีกด้านกลับพบว่า มีนักวิชาการไทยจำนวนหนึ่ง ได้พยายามศึกษาวิจัย สายพันธุ์กัญชาไทยและต่างชาติมาโดยตลอด
ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะที่การประชุมกรรมการวิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ... ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาที่มีนายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งทางสภาเกษตรกรแห่งชาติ เห็นด้วยที่เปิดให้กัญชา ศึกษา วิจัย และใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้เท่านั้น
“สภาเกษตรกรแห่งชาติได้เสนอในที่ประชุมถึงการให้เกษตรกรไทยรายย่อย ร่วมปลูกกัญชากับหน่วยงานรัฐ โดยเสนอให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้สกัดแต่เจ้าเดียว และให้เกษตรกรปลูกส่ง ซึ่งอาจต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์การปลูก ปริมาณต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อพิจารณาในข้อกำหนดการปลูกกัญชาในภาคเกษตรกร ซึ่งสภาเกษตรกรแห่งชาติพร้อมในการร่วมคัดกรองเกษตรกรที่จะปลูกกัญชา โดยต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน มีประวัติที่ดี มีวินัย เบื้องต้นมีความเห็นตรงกับในที่ประชุม ที่จะให้จัดตั้งเป็นกลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน โดยพืชสมุนไพรกัญชาอาจเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ของภาคเกษตรกร และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในอนาคต หลังจากที่ถูกควบคุมมานาน” นายประพัฒน์ กล่าว
นายประพัฒน์ กล่าวอีกว่า ทางสภาเกษตรกรแห่งชาติยังคงมีความกังวลในเรื่องของการผูกขาดจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในอนาคต ทั้งไทยและต่างชาติที่อาจจะเข้ามาร่วมมือกับภาครัฐในการสกัด และปลูกกัญชา ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาอย่างถี่ถ้วน และคำนึงถึงผลประโยชน์ของคนในชาติ และเกษตรกรรายย่อย และให้มีการทบทวนเรื่องค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนปลูกกัญชา หลังมีรายงานว่ามีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ได้เสนอในประชุมกรรมการวิสามัญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติม ว่า หลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ. ...ฉบับใหม่ โดยในช่วง 10 ปีแรก ไม่ให้มีการยื่นขอการขึ้นทะเบียนจดสิทธิบัตรกัญชาจากต่างชาติ เพื่อให้โอกาสคนในประเทศไทยก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี