“ศรีสุรรณ” ขุด 5 พิรุธเตาเผาขยะ กทม. ส่อล็อกสเป็ก-เอื้อเอกชนบางราย ชง สตง.ตรวจสอบให้เป็นไปตามระเบียบวินัยการเงินการคลัง เชื่อโครงการมีประโยชน์ระยะยาว แต่ต้องทำให้โปร่งใส ด้าน“ผู้ว่าฯกทม.” โพล่งกลางที่ประชุมสภา กทม.มีเอกชนวิ่งงานเตาเผาขยะ กทม. แต่ไม่รับนัด ยันต้องเดินหน้าต่อ
20 ธ.ค.61 ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการ สตง. กรรมการ สตง. และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าฯ สตง.) เพื่อให้ตรวจสอบรายละเอียดของร่างขอบเขตงาน(ทีโออาร์) โครงการประกวดราคาจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผามูลฝอยขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อวัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขมและอ่อนนุช ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงินงบประมาณโครงการละ 6,570 ล้านบาท รวม 2 โครงการ มูลค่า 13,140 ล้านบาท ของกองจัดการขยะ สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.)
นายศรีสุวรรณ กล่าวอ้างว่า หลังจากศึกษาร่างทีโออาร์ที่ กทม.เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐก่อนหน้านี้ พบข้อพิรุธในหลายประการ ทั้งในเรื่องราคากลางที่แพงเกินกว่าปกติ สูงกว่าหน่วยงานภาครัฐอื่นๆถึง 3 เท่า ซึ่งอาจส่งผลให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณของประเทศ ไม่มีความคุ้มค่า อีกทั้งยังมีรายละเอียดบางส่วนที่อาจเปิดทางให้มีการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างด้วย สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงขอให้ สตง.เข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ กทม. ทบทวนดำเนินการตามกฎหมาย และข้อทักท้วงของฝ่ายต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชนหลายสำนัก ทำให้โครงการมีความโปร่งใส ไม่เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต เพราะเข้าใจดีว่าโครงการนี้มีความจำเป็นต่อการจัดการขยะมูลฝอยของ กทม. และมีประโยชน์ในระยะยาว
สำหรับหนังสือร้องเรียนที่นายศรีสุวรรณ ยื่นต่อ สตง.นั้น ได้อ้างถึงข้อพิรุธ 5 ประการ ประกอบด้วย 1.ระยะเวลาการเปิดรับฟังข้อวิจารณ์ที่สั้นเกินไป โดย กทม.นำร่างทีโออาร์เผยแพร่ผ่านผ่านเวบไซต์ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพียงแค่ 4 วันตามระยะเวลาขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด ทั้งเป็นโครงการที่มีมูลค่างบประมาณมากถึง 13,140 ล้านบาท
2.การกำหนดราคากลางที่สูงเกินความเป็นจริงถึง ถึง 3 เท่าตัว โดย กทม.กำหนดราคากลางที่ 900/ตัน ขณะที่โรงงานแปรรูปขยะมูลฝอยชุมชนในหลายจังหวัดที่มีสัญญาดำเนินการรูปแบบเดียวกับ กทม.กลับกำหนดราคาขั้นต่ำได้ถึง 250 บาทต่อตันเท่านั้น
3.การไม่กำหนดให้มีการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 และยุทธศาสตร์มหานครปลอดภัย ไร้มลพิษ รวมไปถึงหลักธรรมาภิบาลของทาง กทม.เอง
4.ความไม่สมบูรณ์ของร่างทีโออาร์ และความไม่เหมาะสมของแหล่งที่มาในการสืบราคากลาง ซึ่งมีการนำบริษัทที่ไม่มีผลประกอบการ รวมไปถึงผลงานด้านเตาเผาขยะมาร่วมเสนอราคากลาง
5.รายละเอียดในร่างทีโออาร์เข้าข่ายล็อกสเปค กีดกันผู้ประกอบการรายอื่น โดยใช้คุณสมบัติจำเพาะของบริษัทที่เข้าข่ายจะร่วมประมูลโครงการ มาระบุไว้ในร่างทีโออาร์ เพื่อให้เกิดความได้เปรียบหรือมีสิทธิได้คะแนนทางเทคนิคเหนือกว่าผู้ประกอบการรายอื่นอย่างเห็นได้ชัด
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.และคณะผู้บริหารได้เข้าร่วมประชุมด้วยนั้น นายชยาวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา สมาชิกสภา กทม.ได้เสนอญัตติให้ กทม.กำหนดมาตรการและแนวทางการดำเนินการตรวจสอบควบคุมและกำกับดูแลโครงการเตาเผามูลฝอยดังกล่าว ซึ่งได้เสียงสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากสมาชิกสภา กทม. ที่ต่างต้องการให้ผู้บริหาร กทม.ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ รวมถึงให้ข้อมูลว่า การดำเนินโครงการอย่างโปร่งใส ทั้งในแง่การจัดซื้อจัดจ้าง และผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
โดย นายชาตรี วัฒนเขจร รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม ชี้แจงว่า การจัดทำร่างทีโออาร์เป็นไปตามกฎหมาย และได้รับความเห็นชอบจาก รมว.มหาดไทย แล้ว ขณะที่ระยะเวลาการเผยแพร่ร่างประกาศและร่างเอกสาร เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ ได้ดำเนินการครบเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วัน ส่วนระยะเวลายื่นข้อเสนอและเสนอราคาก็เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยใช้เวลารวม 56 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.61-21 ม.ค.62 ทั้งนี้อัตราราคากลางที่ 900 บาทต่อตัน เป็นอัตราที่มีความเหมาะสม เพราะมีผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือรองรับ อีกทั้งยังได้มีการสืบราคากลางไม่น้อยกว่า 3 ราย
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวเสริมว่า ได้มอบหมายให้สำนักสิ่งแวดล้อมชี้แจงกับผู้ที่เสนอความเห็นกับร่างประกวดราคาทั้ง 12 รายเรียบร้อยแล้ว ทั้งยืนยันว่าจะพยายามดำเนินการอย่างระมัดระวัง แม้จะมีหลายคนมาเข้ามาขอพบเป็นการส่วนตัว เพื่อตกลงราคากับตนก็ตาม แต่ตนไม่เจรจาส่วนตัวกับใครทั้งนั้น ขอให้ทุกคนเข้าแข่งขันกันตามกระบวนการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี