6 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความเสียหายจากพิษพายุโซนร้อนปาบึก ที่พัดถล่มหลายพื้นที่ในจัหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับความเสียหายจำนวนเป็น 16 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่โซนฝายฝั่งทะเลอ่าวไทย 6 อำเภอ เบื้องต้นพบว่ามีความเสียหายจำนวนมากกระจายไปทุกพื้นที่ที่ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสำรวจเข้าไปถึงได้ เนื่องจากถนนหนทางถูกตัดขาดหลายเส้นทาง มีต้นไม้ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เสาไฟฟ้าล้มขวางถนนสายต่างๆจำนวนมาก รวมทั้งสวนยางพารา สวนผลไม้ สวนทุเรียนในหลายพื้นที่ ถูกพายุพัดถล่มล้มราบคาบได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถประเมินค่าเสียหายไม่ได้
รวมทั้งด้านปศุสัตว์มีสัตว์เลี้ยงล้มตายจำนวนมกเช่นกัน ส่วนเสาไฟที่ล้มขวางถนนในหลายพื้นที่ แม้เจ้าหน้าที่ กฟภ.จะระดมกำลัง จนท.กฟภ.จากทั่วภาคใต้ เร่งซ่อมและกู้เสาไฟฟ้าอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนได้มีไฟฟ้าใช้ คาดว่าประชาชนสามารถกลับมาใช้ไฟฟ้าได้ตามปกติภายในวันสองวันนี้ ด้านนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.นครศรีธรรมราช ได้สั่ง จนท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ เนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้าง
ขณะที่ผู้อพยพตามศูนย์อพยพต่างๆของจังหวัดนครศรีธรรมราช วันนี้ ( 6 ม.ค.) ผู้อพยพได้กลับไปบ้านพักของตัวเองกันหมดแล้ว เพื่อทำความสะอาด ซ่อมบ้านที่ได้รับความเสียหายของตัวเอง โดยมีกำลังทหาร ทภ.4 ตชด. ตำรวจ ,จนท.มูลนิธิต่างๆ รวมทั้งจิตอาสาร่วมให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายตลอดทั้งวัน
ขณะเดียวกันที่ในพื้นที่ ต.แหลมตะพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นหลักที่พายุโซนร้อนพัดถล่มพบว่า บ้านเรือนราษฎรที่อยู่บริเวณชายทะเลได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งปรากฏว่าวันนี้ในพื้นที่ ต.แหลมตะลุก มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ และประชาชนจิตอาสาจากหลายพื้นที่แห่หลั่งไหลเข้าพื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก นำสิ่งของข้าวสารอาหารแห้งไปมอบเหลือชาวบ้าน ต.แหลมตะลุมพุก ตลอดทั้งวัน ทำให้การจราจรใน ต.แหลมตะลุมพุก ติดขัด ซึ่ง จนท.ต้องระดมเข้าไปช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในพื้นที่ด้วยความชุลมุน
ขณะพื้นที่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ระดับน้ำท่วมขังในถนนซอยต่างๆ มีระดับเริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยทาง ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ร่วมกับกรมชลประทานติดเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลอย่างเต็มที่ ระดับน้ำจึงลดลงอย่างรวดเร็ว คาดว่าภายในวันนี้ระดับจะลดลงสู่ภาวะปกติ ซึ่งอาจยังท่วมขังในที่ราบลุ่มเท่านั้น และทางเทศบาลยังให้ จนท.นำข้าวกล่องจำนวนมากลงเรือแจกให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมตามตรอกซอกซอยต่างๆ เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถออกมารับข้าวกล่องได้ และมี จนท.มูลนิธิใต้เต๊กตึ้ง มูลนิธิปอเต๊กตึ้ง จนท.กู้ภัยนคร และมูลนิธิประชาร่วมใจ ลงพื้นที่นำข้าวกล่องไปร่วมแจกช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ อ.พระพรหม ระดับน้ำก็เริ่มลดแล้วเนื่องจากฝนหยุดตกมา 2 วันแล้ว โดยนายสรรเพชญ์ ทันราย กำนันตำบลท้ายสำเภา ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนจิตอาสาพร้อมกำลัง ทหารป.5 พัน 105 นำเลื่อยยนต์จำนวน 8 เครื่องพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนนและล้มทับบ้านเรือน ล้มทับเสาและสายไฟฟ้า ในตำบลท้ายสำเภา เพื่อให้สะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และประสานการไฟฟ้าเร่งดำเนินการปล่อยกระแสไฟฟ้า ซึ่งยังใช้การไม่ได้ มืดมิดเป็นวันที่ 2 แล้ว เนื่องจากต้นไม้หลายต้น ล้มทับสายไฟฟ้าขาดและชำรุด โดยภาพรวมในการแก้ปัญหาต้นไม้ล้มทับ มีทั้งหมดประมาณ 100 จุดคาดว่าวันนี้คงจะเสร็จเรียบร้อยไปบางส่วน
ส่วนที่ ต.ปากนคร อ.เมือง สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผลพวงจากพายปาบึก ทำให้บ้านเรือนของประชาชนใน ต.ปากนคร ตั้งแต่ถนนสายนคร - ปากนคร จนถึงชายทะเลปากนคร รวมกว่า 10 กิโลเมตรได้รับความเสียหาย ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ที่ได้รับความเสียหายออกจากบ้าน พร้อมกับทำความสะอาด ขณะที่เจ้าหน้าที่ กฟภ.เร่งซ่อมเสาไฟฟ้าที่ล้มระเนระนาดหลายสิบต้น เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ชาวบ้านได้ตามปกติ คาดต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1- 2 วัน ส่วนความช่วยเหลือมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ห้างร้าน นำถุงยังชีพ ประกอบด้วยข้าวสารอาหารกระป๋อง มามอบให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อบรรเทาความเดือนร้อน และมีหน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งนครศรีธรรมราช กางเต็นท์ประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี