คาดราคายางพุ่งถึง70บาท
หลัง‘ปาบึก’ถล่มสวนพัง
ผู้เชี่ยวชาญด้านยางพาราระบุอิทธิฤทธิ์พายุ “ปาบึก” ส่งผลให้ยางพาราภาคใต้เสียหายหนัก ในขณะที่ภาวะเอลนีโญกำลังจ่อซ้ำเติม แนะชาวสวน ทำยางแผ่น เก็บไว้ในสต๊อก คาดอีก 3 เดือนได้ลุ้นที่กก.ละ55-60บาท เชื่อกลางปีอาจพุ่งถึง 70 บาท/กก. พร้อมเตือนพวกส่งออกถ้าไม่อยากเจ็บตัวหยุดขายล่วงหน้าในลักษณะการส่งมอบระยะยาว
นายวิสุทธิ์ นิติยารมย์ อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ผู้เชี่ยวชาญด้านยางพารา ให้สัมภาษณ์เชื่อว่าจากอิทธิพลจากพายุ”ปาบึก” ได้ส่งผลทำให้สวนยางพาราในภาคใต้เสียหายนับแสนไร่ ทั้งยางหักโค่น หรือโดนพายุกระโชกแรงทำให้รากยางพาราเสียหาย ส่งผลให้ต้นยางผลิตนำยางได้น้อยกว่าเดิม
ประเด็นดังกล่าว จะมีผลต่อเนื่องอีกหลายเดือน ซึ่งโรงงานผลิตน้ำยางข้นรู้ถึงสถานการณ์ในเรื่องนี้ดี ถึงกับรีบเปิดราคารับซื้อน้ำยางสดจากเกษตรกร สูงขึ้นเกือบ 10 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะนี้ ทำให้ราคาน้ำยางสด อยู่ที่กว่า กิโลกรัมละ 40 บาทแล้ว ประกอบในปีนี้คนงานกรีดยางต่างชาติหายหมด หาแรงงานยากและสิ่งที่น่ากลัวที่สุดมีสัญญาณชัดว่าจะเกิดเอลนิโญขึ้นในปีนี้ค่อนข้างแน่นอน จะส่งผลทำเกิดความแห้งแล้งทั้งอาเซียน โดยดูได้จากตัวเลขการผลิตยางก้อนถ้วยในภาคอีสาน ภาคเหนือลดลงเกือบ30เปอร์เซ็น ภาวะเช่นนี้จะทำให้ ยางพาราจะมีผลผลิตน้อยลงถึง 20%และคาดว่าในกลางปีนี้ ราคายางอาจจะแตะที่70บาท/กก.
นายวิสุทธิ์ ยังระบุด้วยว่า จากสาเหตุหลัก 3 ประการที่จะทำให้ผลผลิตยางพาราลดลงถึง20%ในปีนี้ ชาวสวนยางควรเปลี่ยนจากการขายนำยางสด แล้วหันมาทำยางแผ่นดิบแทนเหมือนในอดีต แล้วจะเก็บยางแผ่นไว้ 2-3 เดือนอาจขายได้ถึง กก.ละ 55-60 บาท ส่วนโรงงานยางแท่ง ยางแผ่นรมควันในปี้ก็ควรหยุดการขายยาง ในตลาดการส่งมอบระยะยาวเพื่อหลีกการขาดทุน
อดีตที่ปรึกษารองนายกฯผู้เชี่ยวชาญด้านการยางพารา ยังเผยด้วยว่าจากภาวะ
การขาดแคลนยางพาราครั้งนี้อาจยาวนานมากกว่า 2-3 ปี เพราะขณะนี้สต๊อกยางโลกแทบไม่มี โดยเฉพาะประเทศจีนสต๊อกมีน้อยมาก และหลงประเด็นคิดว่าไทยมียางสต็อกอยู่มาก จากการที่บริษัทใหญ่หลายบริษัททำการขายยางส่งมอบระยะยาวไว้เป็นจำนวนมาก เกินกำลังผลิตยางพาราที่ไทยจะผลิตได้ จะมีปัญหาในการส่งมอบแน่นอนและจะขาดทุนอย่างมหาศาลเหมือนกับปี 2560 อีก
กระนั้นก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ราคายางถีบตัวสูงขึ้นเป็นอย่าง มากในช่วงปี2560 ที่มีราคายางเฉลี่ยถึง69บาท(ราคาFOB) แต่กลับปล่อยราคาให้ราคายางตกลงถึง50บาท(ราคาเฉลี่ยFOBในปี2561) ราคาลดหายไปถึง19บาท ทำให้เงินรายได้ของชาวสวนยางหายร่วม70,000หมื่นล้านบาท และส่งผลให้ปลายปี2561ราคาตกลงเหลือเพียงกก.ละ30บาทเท่านั้น กระทบต่อเศรษฐกิจโดยส่วนรวม บทเรียนครั้งนี้แพงเกินไปแสดงถึงการบริหารที่ล้มเหลวเป็นอย่างมากของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี