‘ชาวบ้านกรวด’ผวาปะทะรอบ2 แห่ขายยางหาเงินเตรียมอพยพ เรียกร้องรัฐบาลจัดเขมรให้จบ

‘ชาวบ้านกรวด’ผวาปะทะรอบ2 แห่ขายยางหาเงินเตรียมอพยพ เรียกร้องรัฐบาลจัดเขมรให้จบ

วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 11.16 น.

‘ชาวบ้านกรวด’ผวาปะทะรอบ2 แห่ขายยางหาเงินเตรียมอพยพ เรียกร้องรัฐบาลจัดเขมรให้จบ

17 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ ต.จันทบเพชร ต.สายตะกู และ ต.โคกกระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยพบว่าได้มีชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน ที่เป็นเกษตรกรชาวสวนยางพารา ต่างเร่งทยอยนำยางพาราพาราก้อนถ้วย ออกมาขายให้กับสหกรณ์กองทุนสวยยางนิคมบ้านกรวด จำกัด ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งให้ราคาดีกว่าลานรับซื้อยางพาราทั่วไป          


ทั้งนี้ ราคารับซื้อ ยางเครป รับซื้ออยู่ที่กิโลกรัม 30-32 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่รับซื้อกิโลกรัม 29-30 บาท น้ำยาง รับซื้อที่กิโลกรัมละ 54 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่รับซื้อกิโลกรัมละ 50 บาท และยางก้อนถ้วยรับซื้อที่กิโลกรัมละ 24-26 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่รับซื้อกิโลกรัมละ 22-23 บาท ทั้งยังพบว่า แนวโน้มราคารับซื้อยางพาราจะดีขึ้นตามลำดับ และดีกว่าช่วงก่อนที่จะมีการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉลี่ยขณะนี้พบว่า ที่ สหกรณ์กองทุนสวยยางนิคมบ้านกรวด จำกัด มีเกษตรกรชาวสวนยางพารานำยางพารามาจำหน่ายเฉลี่ย 20-30 ตันต่อวัน

ส่วนสาเหตุที่เกษตรกรชาวสวนยางพารารีบนำยางพารามาขาย ให้เหตุผลว่าเพื่อนำไปไว้ใช้จ่ายในครอบครัว และบางส่วนเก็บสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินในการอพยพ หากมีการสู้รบกันอีกครั้งของไทย-กัมพูชา เนื่องจากส่วนใหญ่ยังคงไม่มีความมั่นใจ ในสถานการณ์ชายแดนที่เกิดขึ้นปัจจุบัน หลังมีทหารไทยเหยียบกับระเบิด ที่ฝ่ายกัมพูชาลักลอบนำมาวางไว้ ขณะออกลาดตระเวนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ และความตึงเครียดระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่เผชิญหน้ากันขณะออกลาดตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อยแนวชายแดน

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวการกระทำที่ยั่วยุของฝ่ายกัมพูชา ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงเกรงว่าอาจจะเป็นชนวนเหตุ ทำให้เกิดการสู้รบกันขึ้น ซึ่งหากมีการสู้รบกันจริง ก็อาจจะไม่สามารถเข้าไปกรีดยางได้ ทำให้ขาดรายได้ และต้องอพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งต้องมีใช้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีก จึงจำเป็นจะต้องรีบนำยางพาราออกไปขายดังกล่าว

นายชำนาญ จันหลั่ง อายุ 42 ปี ชาวบ้าน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า ตนเองปลูกยางพารา 2,000 ต้น ผลผลิตตอนนี้ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่มั่นใจในสถานการณ์แนวชายแดน จึงจำเป็นต้องรีบนำยางพาราที่กรีดไว้แล้วออกมาขายก่อน ซึ่งพบว่าตอนนี้ราคายางพารามีราคาดีกว่าตอนที่ยังไม่ปิดด่านชายแดน ที่เมื่อก่อนยางก้อนถ้วยที่เป็นขี้ยาง มีราคารับซื้อเพียงกิโลกรัมละ 10 กว่าบาท แต่ตอนนี้มีราคาอยู่ที่ 20 กว่าบาท จึงอยากให้รัฐบาลและทหาร เร่งรีบจัดการให้จบสิ้นโดยเร็ววัน เพื่อที่ชาวบ้านจะได้ไม่ต้องพะวงในการอพยพ เพราะมันหลายครั้งหลายคราแล้ว

ด้านนายสุรศักดิ์ ยอมประโคน อายุ 49 ปี ชาวบ้าน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า  ปลูกยางพาราไว้ 5-6 ไร่ วันนี้เอายางพาราก้อนถ้วย มาทำเครปยางส่งขาย เนื่องจากยางเครปจะมีราคาสูงกว่ายางก่อนถ้วยทั่วไป หรือขี้ยาง ซึ่งราคารับซื้อยางพาราช่วงนี้ ดีขึ้นกว่าช่วงที่ยังไม่ปิดด่านชายแดน โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 4-5 บาท จะว่ารีบก็รีบขายเพราะว่าเหตุการณ์ชายแดนยังไม่ปกติ อีกทั้งไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เพื่อที่อย่างน้อยจะได้มีเงินสดติดตัวไว้หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก

ขณะที่นายณรงค์ฤทธิ์ จริงประโคน อายุ 25 ปี ชาวบ้าน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า ปลูกยางพาราไว้ 2 ไร่ หลังหมดฝนจึงรีบกรีดยางแล้วนำขี้ยางพารามาขาย เพราะยังวิตกกับสถานการณ์ชายแดนปัจจุบัน ประกอบกับช่วงนี้ราคารับซื้อยางพารา ดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ที่รับซื้อเพียงกิโลกรัมละ 20-22 บาท แต่ปัจจุบันราคารับซื้ออยู่ที่ 24-25 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่ามีราคาดีกว่าที่ยังไม่ปิดด่านชายแดน

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top