ญาติเดินหน้าคดีแพ่งสืบทรัพย์ ‘แก๊งบังฟัต’ฆ่า8ศพ ชดใช้ค่าสินไหม
15 ม.ค.62 นายสมนึก ภัทรลิขิต ทนายความ พร้อมด้วยนายจรีย์ บุตรเติบ พ่อตาของ นายวรยุทธ สังหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ที่ถูกนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ “บังฟัต” และพวกรวม 8 คน บุกสังหารโหดเสียชีวิตภายในบ้านพัก พร้อมคนในครอบครัวรวม 8 ศพ ได้เดินทางมาฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 8 ความอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาที่ศาลจังหวัดกระบี่
หลังผู้ร้องได้ร่วมกันลงชื่อยื่นคำร้องขอแก้คำอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 คือ นายคมสรรค์ เวียงนนท์ หรือม่อน ที่ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินศาลชั้นต้นไว้ก่อนหน้านี้ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น รวมทั้งกรณีที่ทนายความได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองทรัพย์สินจำเลย ที่ 1-6 ที่ศาลชั้นต้นได้ตัดสินประหารชีวิต เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน โดยศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำสั่งเสร็จสิ้น ในเวลา ประมาณ 11.00 น.
คำสั่งศาลอุทธรณ์ ภาค 8 คดีอาญาหมายเลขดำที่ 4396/2560 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1380/61 มีใจความ ระบุว่า ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ผู้ร้องที่ 2-8 คือ นายจรีย์และญาติ เพียงแต่ยื่นคำร้องขอให้บังคับ จำเลยที่ 1-7 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ซึ่งเป็นคำฟ้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ผู้ร้องที่ 2-8 ย่อมอยู่ในฐานะโจทก์ในคดีส่วนแพ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 วรรคสอง เท่านั้น เมื่อผู้ร้องที่ 2-8 มิได้ขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ ผู้ร้องที่ 2-8 ย่อมไม่มีฐานะเป็นคู่ความ อันจะมีสิทธิอุทธรณ์ในคดีส่วนอาญาได้ คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของผู้ร้องที่ 2-8 ในคดีส่วนอาญาชอบแล้ว ยกคำร้อง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการในคดีส่วนแพ่งต่อไป พิพากษายืน
ด้านนายสมนึก เปิดเผยภายหลังฟังคำสั่งศาลว่า กรณีที่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งคุ้มครองทรัพย์สินของจำเลย ที่1-6 คือ บังฟัต และพวกรวม 6 คน ที่ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต ปรากฏว่าวันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ยังไม่มีคำสั่งออกมา มีเพียงคำสั่งในกรณีที่ผู้ร้อง คือ นายจรีย์ บุตรเติบ ที่ได้ยื่นคำร้องขอแค้คำอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 และขอให้เพิ่มโทษจำเลย ที่ 1-7 พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ร้อง ซึ่งศาลได้มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นไม่รับคำร้อง เนื่องจากผู้ร้องไม่ได้ เป็นโจทก์ร่วมมาตั้งแต่ต้น แม้ทางผู้ร้องที่เหลือจะร่วมลงชื่อยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งแล้วก็ตาม
นายสมนึก กล่าวอีกว่า ตนพอใจในคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 8 แม้ศาลอุทธรณ์จะไม่รับคำร้องอุทธรณ์ในส่วนคดีอาญา เนื่องจากผู้ร้องไม่ได้เข้าเป็นโจทก์ร่วมมาตั้งแต่ต้น แต่ทราบว่าทางอัยการได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นไว้แล้วในส่วนของคดีอาญา ที่จะเพิ่มโทษจำเลยตามความเหมาะสม จึงไม่ได้ติดใจที่จะยื่นฎีกาอีก แต่ในส่วนคดีแพ่งในการสืบทรัพย์ของจำเลยนั้นก็ยังเดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะเรื่องที่ดินของจำเลย ซึ่งศาลนัดสืบพยาน ในวันที่ 29 ม.ค.62
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี