ตม.เกาะสมุยเข้มนายจ้าง ห้ามยึดหนังสือเดินทางแรงงานต่างด้าว

ตม.เกาะสมุยเข้มนายจ้าง ห้ามยึดหนังสือเดินทางแรงงานต่างด้าว

วันพฤหัสบดี ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562, 15.10 น.

17 ม.ค.62 พ.ต.อ.วันชนะ บวรบุญ ผกก.ตม.จ.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ ร.ต.อ. เทอดศักดิ์ ธวัชร์วรกุล รอง สว ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ประจำเกาะสมุย ด.ต. ธรรมนูญ แพน้อย ผบ.หมู่ ตม.จว สุราษฏร์ธานี ด.ต.พิศฐ์ศักดิ์ จันทโกมุท ผบ.หมู่ ตม.จว สุราษฏร์ธานี เข้าตรวจสอบร้านอาหาร และสถานประกอบการต่างๆ ในพื้นที่เกาะสมุยที่มีแรงงานต่างด้าวในครอบครองตั้งแต่เจ้าของธุรกิจ และแรงงานทุกประเภท ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ผกก.ตม.จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับการการร้องเรียนว่าพบปัญหาร้องเรียนจากแรงงานต่างด้าวว่าถูกนายจ้างยึดหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต ไว้เพื่อเป็นหลักประกันการทำงาน หรือเพื่อไม่ให้ลูกจ้างหนีไปทำงานที่อื่น

ดังนั้น ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ ธวัชร์วรกุล รอง สว ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ด.ต.ธรรมนูญ แพน้อย ผบ.หมู่ ตม.จว สุราษฏร์ธานี ด.ต.พิศฐ์ศักดิ์ จันทโกมุท ผบ.หมู่ ตม.จว สุราษฏร์ธานี จึงได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเจ้าของธุรกิจเป็นชาวญี่ปุ่นตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยพบว่าภายในร้านอาหารดังกล่าว มีชาวญี่ปุ่นเป็นเจ้าของร้านโดยมีมีภรรยาคนไทย นอกจากนี้ยังมีพ่อครัวเป็นชาวญี่ปุ่นอีกสองคน และพบแรงงานต่างด้าวผู้หญิงจำนวนเก้าคน เป็นแรงงานชาวเมียนมาจำนวนแปดคน และเป็นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งคน


เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาะสมุยจึงได้ขอตรวจสอบหลักฐานแรงงานต่างด้าวของนายจ้าง และลูกจ้างต่างด้าว จากการตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการรายนี้มีหลักฐานถูกต้อง และแรงงานต่างด้าวทุกคนมีเอกสารหนังสือเดินทางถูกต้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาะสมุยจึงได้ขอความร่วมมือนายจ้าง อย่ายึดหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ตของลูกจ้างไว้เด็ดขาด แรงงานข้ามชาติเองจะต้องเก็บเอกสารสำคัญไว้กับตัว เพราะหากถูกเรียกตรวจจากเจ้าหน้าที่แต่ไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้จะถูกปรับเป็นเงิน 5,000 บาท

และหากนายจ้างเก็บหรือยึดเอกสารลูกจ้างจะมีความผิดตามมาตรา 10 ของพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานพ.ศ.2541 ที่ห้ามไม่ให้นายจ้างเรียก หรือรับหลักประกันการทำงานหรือหลักประกันความเสียหายในการทำงานไม่ว่าจะเป็นเงิน ทรัพย์สินอื่น หรือการค้ำประกันด้วยบุคคลจากนายจ้าง เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพงานของงานที่ทำนั้นลูกจ้างต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สินของนายจ้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อนายจ้างได้ สำหรับความผิดตามมาตรา 10 มีอัตราโทษสูงสุด คือ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top