วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เลาะรั้วเกษตร : มลพิษของคนกรุง

เลาะรั้วเกษตร : มลพิษของคนกรุง

วันศุกร์ ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.
Tag : มลพิษของคนกรุง
  •  

วันนี้ต้องขออนุญาตออกนอกรั้วเกษตรไปไกลสักนิด แต่ก็ยังมีอะไรเกี่ยวๆ กันอยู่บ้าง ที่รู้ๆ คือมีสถิติที่น่าตกใจสำหรับชาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่มีการเสนอข่าวว่า บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีจำนวนฝุ่นละอองซึ่งเป็นมลพิษหนาแน่นที่สุดเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา

ณ ช่วงเวลานี้สิ่งที่ผู้คนใน กทม. พูดถึงมากกว่าการเลือกตั้ง คือ เรื่องของฝุ่นละอองที่หนาแน่น โดยเฉพาะ “PM 2.5”


PM 2.5 ที่ใครๆ ต่างพูดถึงกันวันนี้ คือฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หมายถึงฝุ่นที่ละเอียดมาก เทียบเท่ากับแบคทีเรียที่ตาเรามองไม่เห็นเลยทีเดียว เป็นฝุ่นละอองที่ละเอียดขนาดที่ระบบป้องกันในร่างกายคนเราไม่สามารถดักจับได้ การหายใจปกติของคนเราก็จะมีฝุ่นนี้เข้าไปสู่ระบบทางเดินหายใจอย่างสบายๆ ที่สำคัญคือเขาบอกว่า ฝุ่นนี้เป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็งปอด

หาสาเหตุกันต่อไปว่าฝุ่นนี้มาจากไหน...

อ้างถึงข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งมีงานวิจัยระบุไว้ในเอกสารโครงการศึกษาแหล่งกำเนิดและแนวทางการจัดการฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งดำเนินการเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ระบุว่า PM 2.5 ส่วนใหญ่เกิดมาจากไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซลที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ รองลงมาคือ การเผาขยะและเศษสิ่งต่างๆ ส่วนโรงงานที่คิดว่าเป็นสาเหตุนั้นมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนการก่อสร้างที่มีอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ทั้งรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นงานก่อสร้างระยะยาว 4-5 ปี รวมทั้งการก่อสร้างอาคารที่พักคอนโดมิเนียม ซึ่งเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดตามเส้นทางรถไฟฟ้านั้น ก่อให้เกิดฝุ่นเช่นกัน แต่เป็นขนาดใหญ่กว่า PM 2.5 เป็นขนาด PM 10

มาถึงการแก้ไขที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยการฉีดน้ำขึ้นไปในอากาศ หรือ กระทรวงเกษตรฯ ของท่านรัฐมนตรี กฤษฎา บุญราช จะปฏิบัติการทำฝนเทียมเพื่อให้น้ำฝนชะเอาฝุ่นละอองตกลงมานั้น นักวิชาการบอกว่า ใช้กับ PM 10 พอจะได้ แต่กับ PM 2.5 ใช้ไม่ได้ผล.....

จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องจัดหาหน้ากากอนามัยมาบริการประชาชน เรื่องหน้ากากนี้ก็สร้างความสับสนให้กับชาวบ้านอย่างเราๆ ท่านๆ หน้ากากอนามัย หรือ แมสก์ที่เคยใช้คาดปิดปากปิดจมูกเวลาเป็นหวัด หรือเวลาไปโรงพยาบาลอย่างที่เคยใช้ก็ใช้ไม่ได้ เพราะไม่สามารถกรอง PM 2.5 ได้ ถ้าจะให้กรองได้ต้องใช้หน้ากากอนามัย N95 ขึ้นไป

หน้ากากอนามัย N95 หมายถึงประสิทธิภาพของหน้ากากสามารถกันฝุ่นละอองได้ 95% ซึ่งรวมทั้ง PM 2.5 ด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้คนที่รักสุขภาพทั้งหลายจึงพากันหาซื้อมาใช้จนขาดตลาด เป็นสถานการณ์ที่ตื่นตระหนกของสังคมคนกรุง จนคุณหมอท่านหนึ่ง นามสกุลคุ้นๆ นายแพทย์ฉันชาย สิทธิพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินหายใจและปอด ออกมาบอกให้คลายกังวลว่า คนที่มีร่างกายอยู่ในสภาพปกติไม่ได้ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ หรือโรคปอด หรือคนที่ร่างกายยังปกติดีไม่มีอาการน้ำตาไหล ระคายเคือง หรืออาการผิดปกติอื่นใด ก็อาจจะยังไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยระดับ N95 เพราะหน้ากากที่กรองฝุ่นได้ขนาดนั้นอาจทำให้เราหายใจลำบากกว่าปกติ

แถมยังมีผลงานวิจัยของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2 ท่าน คือ ศ.ดร.อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ และ ดร.ขนิษฐา พันธุรี Thaneyhill ซึ่งทำการศึกษาเมื่อปี 2551 พบว่า หน้ากากอนามัยธรรมดาซ้อนด้วยกระดาษทิชชู 2 ชั้น ก็มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ N95......ใครที่หาซื้อ N95 ไม่ได้ลองวิธีนี้ดู....

อ่านข่าวมลพิษในกรุงเทพฯ ก็ให้หนักใจว่าจะแก้ไขอย่างไรได้ ในเมื่อจำนวนรถยนต์ยังไม่สามารถทำให้ลดลงได้ แถมยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รอระบบขนส่งมวลชนสายสีเขียว สีแดง สีอื่นๆ ที่จะใช้ได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ก็ดูจะนานเกิน....นอกเหนือจากกรมควบคุมมลพิษ หลายฝ่ายคงต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และกรมการขนส่งทางบก ที่มีรถโดยสารจำนวนมากที่วิ่งบริการประชาชนแต่พ่นควันดำโขมงยังมีให้เห็นอยู่ไม่น้อย

เป็นที่น่าสังเกตว่า เรื่องนี้เรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอนามัยของประชาชนตรงๆ เห็นกันชัดๆ แต่บรรดากลุ่มองค์กรอิสระทั้งหลายกลับเงียบงัน....ไม่เหมือนกับการให้ข้อมูลเรื่องอันตรายของสารเคมีทางการเกษตรที่ยืนกรานอยู่นั่นแล้วว่าทำให้เกษตรกรเป็นมะเร็งและโรคร้ายแรงต่างๆ ถึงขั้นจะฟ้องศาลปกครองกรณีที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายไม่ยอมแบนสารเคมีเจ้าปัญหาที่ยื้อยุดกันมานานข้ามปี

จบลงที่การเกษตรจนได้.....

แว่นขยาย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

​พูดแล้วทำพลัส! ส่องนโยบาย‘ภูมิใจไทย’ ‘อนุทิน’นำดรีมทีมจ่อแถลงสู้ศึกเลือกตั้ง’69

ชาวแม่ฮ่องสอนเดือด! มือมืดโรย ‘ตะปูเรือใบ’ รถขนผักโดนแล้วหลายคัน

ทรัมป์ ประกาศสร้างเรือรบ'ทรัมป์คลาส' ลั่นทรงพลังกว่าเดิม 100 เท่า

คนชอบ คนชัง เป็นธรรมดา! 'กัญจนา'เล่าย้อนเรื่องเก่า การเมืองกับ'ศิลปอาชา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved