สหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช จำกัด จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสหกรณ์ที่เน้นส่งเสริมให้สมาชิกเลี้ยงสัตว์น้ำแบบธรรมชาติ โดยเลี้ยงในพื้นที่ป่าชายเลน เน้นรักษาระบบนิเวศ และทำประมงแบบวิธีดั้งเดิม ทำให้ผลผลิตที่ได้ปลอดภัยจากสารตกค้าง ราคาดี และเป็นที่ต้องการของตลาด
ปัจจุบันสัตว์น้ำที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากที่สุดคือ “ปูดำ” โดยเฉพาะปูไข่ ทำให้ราคาในท้องตลาดค่อนข้างสูง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้สนับสนุนงบประมาณให้สหกรณ์ฯ ส่งเสริมสมาชิกเลี้ยงปูอินทรีย์ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรสมาชิก
นายชาตรี เกตุเรน สหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ส่งเสริมอาชีพด้านประมง ให้กับสหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช จำกัด เลี้ยงสัตว์น้ำแบบธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปลา และปู ต่อมาในปี 2560 เห็นว่าปูดำเป็นที่ต้องการของตลาดและราคาค่อนข้างดี จึงได้สนับสนุนงบประมาณในการเลี้ยงปูแบบอินทรีย์ปีละ 30 ราย รายละ 3,000 บาท และขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ประมงมาให้ความรู้กับเกษตรกรเกี่ยวกับการเลี้ยงปูอินทรีย์อย่างถูกวิธี ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากสมาชิกดีมาก ดังนั้นในอนาคตจึงมีแผนว่าจะขยายการผลิตเพิ่ม โดยขณะนี้กำลังประสานกับประมงในพื้นที่เพื่อทำในรูปแบบของธนาคารปูต่อไป
ด้านนายอาทิตย์ มุสิกวงศ์ ประธานสหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช จำกัด บอกว่า เมื่อได้รับงบประมาณจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช สหกรณ์ฯ จึงได้คัดเลือกสมาชิกที่มีความสมัครใจเลี้ยงปูแบบอินทรีย์ 30 ราย โดยสหกรณ์ฯจัดซื้อลูกพันธุ์ปูดำมาแจกจ่ายให้สมาชิก เพื่อนำไปเลี้ยง ซึ่งในการเลี้ยงแบบอินทรีย์นั้น เป็นการเลี้ยงแบบปล่อยให้หากินเองตามธรรมชาติในพื้นที่ 30 ไร่ หลังจากปล่อยไปเป็นเวลา 2 เดือนก็สามารถจับมาขายได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประมงเข้ามาตรวจสอบปริมาณสารตกค้าง ซึ่งที่ผ่านมาไม่พบสารตกค้างแต่อย่างใด จึงขายได้ในราคาค่อนข้างสูง และไม่ขึ้น-ลงตามราคาท้องตลาดถึงแม้บางครั้งผลผลิตจะมีเป็นจำนวนมากก็ตาม โดยราคาจะคงที่เป็นเดือน เนื่องจากแต่ละเดือนจะมีพ่อค้ามาประมูลราคาผลผลิตที่สหกรณ์ฯ ได้รวบรวมไว้จากสมาชิก จึงได้ราคาเดียวกันตลอดทั้งเดือน ซึ่งล่าสุดปูไข่เล็ก ราคา 500 กว่าบาทต่อกิโลกรัม ปูไข่รอง ราคา 600 กว่าบาทต่อกิโลกรัม และปูไข่ใหญ่ราคา 700 กว่าบาทต่อกิโลกรัม
“ที่ผ่านมาสหกรณ์ฯเน้นส่งเสริมให้สมาชิกทำประมงแบบธรรมชาติอยู่แล้ว โดยเลี้ยงรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงกุ้ง ปลา และปู และใช้วิธีการจับแบบดั้งเดิม เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดกับระบบนิเวศ เนื่องจากพื้นที่ในการเลี้ยงส่วนใหญ่เป็นป่าชายเลน ดังนั้น การส่งเสริมให้เลี้ยงปูอินทรีย์จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับสมาชิกทุกคน อีกทั้งการได้รับสนับสนุนงบประมาณดังกล่าว ยังช่วยให้สมาชิกลดต้นทุนผลิต และมีกำลังใจทำแบบอินทรีย์ รวมถึงมีตลาดรองรับชัดเจน มีรายได้แน่นอน ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น” นายอาทิตย์ กล่าว
นอกเหนือจากการส่งเสริมอาชีพแล้ว สหกรณ์ฯ ยังดำเนินธุรกิจอีกหลายด้าน ประกอบด้วย ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจรวบรวมผลผลิตจากสมาชิก ซึ่งการรวบรวมผลผลิตนั้น สหกรณ์ฯ จะเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิกที่นำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับสหกรณ์ฯ จำนวนครึ่งหนึ่งของผลกำไรทั้งหมดที่สหกรณ์ได้รับ โดยจะเฉลี่ยคืนทุก 6 เดือน จึงถือว่าเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับสมาชิกได้อย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี