วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นักวิชาการชี้ลักลอบนำเข้าปลาต่างถิ่น ปัญหาหลักกระทบระบบนิเวศ แนะรัฐแก้แต่ต้นทาง
การแพร่ระบาดของ "เอเลี่ยนสปีชีส์" หรือสัตว์น้ำต่างถิ่นในแหล่งน้ำธรรมชาติของไทย กำลังเป็นปัญหาหลักที่คุกคามระบบนิเวศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการ "ลักลอบนำเข้า" ที่ถูกระบุเป็นช่องโหว่ใหญ่ที่สุดที่ต้องเร่งอุดให้ได้ตั้งแต่ต้นทางไม่ใช่ปล่อยให้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุถึงการพบปลาต่างถิ่นหลายชนิด อาทิ ปลาหมอบัตเตอร์, ปลาหมอมายัน, ปลาซักเกอร์, และปลาอโรวาน่า แพร่กระจายในแหล่งน้ำหลายพื้นที่ ซึ่งตอกย้ำถึงความเร่งด่วนที่ กรมประมง ต้องเร่งวางมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการจัดการปัญหาที่ต้นตอคือ การลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำเหล่านี้
ดร.ชัยภัฏ จันทร์วิไล ประธานเครือข่ายเสียงจากป่า เปิดเผยว่า ในเชิงวิทยาศาสตร์ "เอเลี่ยน" คือสัตว์หรือพืชต่างถิ่นที่ไม่ใช่สายพันธุ์ดั้งเดิมของไทย แม้จะมีเอเลี่ยนสปีชีส์จำนวนมากถูกนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายเพื่อการวิจัยหรือสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่มาจาก "การลักลอบนำเข้า" สัตว์น้ำเหล่านี้
"ตามข้อมูลที่เราตรวจสอบ การลักลอบเข้ามาเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สัตว์น้ำต่างถิ่นหลายชนิดหลุดรอดและแพร่พันธุ์ในธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเห็นใจกรมประมงที่มีหน้าที่กำกับดูแล แต่ด้วยข้อจำกัดด้านบุคลากรและงบประมาณ ทำให้ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง" ดร.ชัยภัฏกล่าว พร้อมเปรียบเทียบว่า การควบคุมการลักลอบนี้มีความซับซ้อนไม่ต่างจากการปราบปรามยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย
เครือข่ายเสียงจากป่าเน้นย้ำว่า สิ่งสำคัญคือการแยกแยะระหว่างสัตว์ต่างถิ่นที่เป็นประโยชน์และที่เป็นโทษ โดยยอมรับว่าทุกการนำเข้าเป็น "ดาบสองคม" แต่สำหรับสัตว์น้ำที่ถูกลักลอบนำเข้าและไม่สามารถค้นหาที่มาที่ไปได้ชัดเจนนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างที่สุด จากการสำรวจพบว่ามีสัตว์น้ำต่างถิ่นหลายชนิดที่หน่วยงานรัฐไม่มีหลักฐานการนำเข้าถึงร้อยละ 50 ซึ่งอนุมานได้ว่าเกิดจากการลักลอบเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ดร.ชัยภัฏได้ให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นที่กำลังเป็นข่าวอย่าง "ปลาหมอคางดำ" ว่า ข้อมูลที่ถูกปล่อยออกมาทางสื่อโซเชียลจำนวนมากมักสร้างความเข้าใจผิดว่ามันเป็นปลานักล่าที่ทำลายสัตว์น้ำอื่น "เราไปหลงเชื่อตั้งแต่ต้นว่ามันอันตราย ทั้งที่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลจาก FAO (องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ) ระบุชัดเจนว่า ปลาหมอคางดำ วงศ์ Cichlidae มีลักษณะการกินเน้นเศษอินทรียวัตถุ, สาหร่าย, และแพลงก์ตอนเป็นหลัก" ดร.ชัยภัฏกล่าว พร้อมเสริมว่า โครงสร้างฟันและทางเดินอาหารของมันเหมาะสำหรับการ "กรอง" มากกว่าการ "กัด" และมีบทบาทเป็นผู้ย่อยสลายในพื้นที่น้ำกร่อยหรือน้ำเสีย
ดังนั้น จึงขอเสนอแนวทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนคือการ เพิ่มความเข้มงวดและมีเอกสารที่ชัดเจนในการตรวจสอบการนำเข้าและการส่งออก เพื่อลดปัญหาการลักลอบให้ได้มากที่สุด แม้ว่าการนำเข้าสัตว์น้ำต่างถิ่นเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น แต่การขาดการควบคุมดูแลที่ทั่วถึงและปัญหาการลักลอบคืออุปสรรคสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขตั้งแต่ต้นทางเพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศอย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี