การช่วยเหลือข้าวเพื่อบริโภคของแอปเตอร์ในรูปแบบที่ 3 คือ แจกฟรีนั้น เจตนารมณ์ คือ เพื่อสงเคราะห์คนยากจนด้านมนุษยธรรม ดังนั้น ประเทศผู้ได้รับประโยชน์ก็ชอบที่จะต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าขนข้าวขึ้นจากเรือ ค่าธรรมเนียมภาครัฐ การขนส่ง ค่าเก็บรักษา รวมทั้งค่าใช่จ่ายอื่นทุกชนิดที่เกิดขึ้นประเด็นก็มีว่า ถ้าประเทศผู้รับเป็นประเทศยากจน ไหนจะต้องโดนภัยพิบัติทำลาย ต้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ก็ย่อมจะเกิดปัญหาขาดแคลนค่าใช้จ่ายได้ ปัญหาเรื่องนี้ ความจริง เท่าที่ได้มีการดำเนินงานมาจนถึงปัจจุบันยังไม่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาเรามีประเทศผู้บริจาคข้าวที่ร่ำรวยและใจดี อย่างญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ คือ นอกจากจะบริจาคข้าวสารแล้ว เขายังบริจาคเงินค่าใช้จ่ายที่ว่านั้นให้เพิ่มอีก เลยทำให้ประเทศผู้รับบริจาคสามารถมีเงินค่าขนส่ง ค่าเก็บรักษา ค่าดูแลรักษาคุณภาพข้าวสาร ค่าแจกจ่ายข้าว รวมทั้งการใช้จ่ายของเจ้าหน้าที่ดำเนินงานอีก ก็หมดปัญหาไปได้
แต่อย่างไรก็ดี หากการบริจาคข้าวสาร ไม่มีการบริจาคเงินเพิ่มเติมดังกล่าว รวมทั้งไม่สามารถหาเงินช่วยเหลือจากแหล่งอื่นได้ ระเบียบแอปเตอร์ได้หาทางออกไว้ 2 ประการ คือ ประการที่ 1 ก็ให้สำนักเลขานุการแอปเตอร์ออกเงินให้แทน แต่ถ้าหากมาขอที่สำนักเลขานุการแอปเตอร์แล้วยังไม่มีอีก ก็ต้องใช้ประการที่ 2 คือ ให้แปลงข้าวที่บริจาคนั้นบางส่วนเป็นเงินค่าใช้จ่าย หรือพูดง่ายๆ คืออนุญาตให้นำข้าวบางส่วนออกขาย เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งอีกนั่นแหละ ปรากฏว่าทางออกทั้ง 2 ประการ ถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีการนำมาใช้เลย เนื่องจากมีผู้บริจาคใจดีดังได้กล่าวมาแล้ว อาจมีอยู่บ้างที่ประเทศผู้รับบริจาค สอบถามการสนับสนุนด้านการเงินจากสำนักเลขานุการแอปเตอร์ ทางแก้วิธีนี้ ขอบอกเลยว่าเป็นไปได้ยาก เพราะทุกวันนี้สำนักเลขานุการแอปเตอร์ก็มีเงินทุนค่อนข้างจำกัด แต่ละปีได้รับบริจาคมาเพื่อเฉพาะเป็นค่าใช้จ่ายในสำนักงานเท่านั้น คงไม่มีเหลือพอที่จะให้การสนับสนุนได้
ข้าวสารที่บริจาคล่วงหน้าและนำไปเก็บไว้ในประเทศหนึ่งๆ นั้น ก็มีระยะเวลาสิ้นสุดการเก็บรักษาเหมือนกัน ทั้งนี้ เพราะข้าวสารมีคุณสมบัติเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาได้ ดังนั้น ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างผู้ให้และผู้รับว่า ระหว่างที่เก็บรักษาไว้นั้น หากไม่มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นถึงขั้นที่จะต้องนำข้าวไปแจกจ่ายแล้ว ส่วนมากจะเก็บไว้ไม่เกิน 12 เดือน ถ้าหากเกิน 12 เดือน ประเทศผู้เก็บรักษาไว้ย่อมสามารถขออนุมัติจากคณะมนตรีแอปเตอร์ เพื่อนำข้าวไปแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ยากจน แม้จะไม่เกิดภัยธรรมชาติเลย
ผลงานของแอปเตอร์ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2556 ที่แอปเตอร์เริ่มมีกิจกรรมดำเนินงาน มีการบริจาคข้าวสารช่วยเหลือตามรูปแบบที่ 3 นี้ ทั้งแบบช่วยเหลือหลังเกิดภัยพิบัติ และที่ขอไปเก็บสำรองไว้ล่วงหน้า ปริมาณรวมทั้งสิ้น 23,670 ตัน โดยมีประเทศผู้รับบริจาค ได้แก่ ฟิลิปปินส์ สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม ของประเทศไทยเราก็เคยได้รับการบริจาคช่วงก่อนหน้านั้น สมัยน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ซึ่งตอนนั้นแอปเตอร์กำลังเตรียมการแปลงร่างจาก East Asia Emergency Rice Reserve (EAERR) ที่ดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว
ได้รู้จักหน้าตาของแอปเตอร์แบบคร่าวๆ แล้วนะครับ ในตอนต่อๆ ไป กระผมก็จะได้นำเอาเรื่องราว เหตุการณ์ที่ได้ไปพบปะมาด้วยตนเอง ขณะที่เดินทางไปปฏิบัติการตรวจสอบ ส่งมอบ และแจกจ่ายข้าวสารในประเทศต่างๆ มาเล่าให้ฟัง ซึ่งบางครั้งก็อาจจะเขียนเล่าสิ่งที่พบเห็นนอกเหนือไปจากภารกิจข้างต้น รวมทั้งอาจเสริมไปด้วยความคิดเห็นต่างๆ บ้าง เท่าที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศและสังคมไทยครับ สวัสดีครับ
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี