ระบบการแจกจ่ายข้าวแอปเตอร์ของฟิลิปปินส์ ฉบับที่แล้วกล่าวว่าหน่วยงาน National Food Authority หรือ เอ็นเอฟเอ จะเป็นฝ่ายที่ทำเรื่องขอรับบริจาคข้าวสารจากประเทศสมาชิก หากเกิดภัยพิบัติขึ้นภายในประเทศ ทั้งนี้ เพราะหน่วยงานนี้ก็เป็นผู้แทนรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่ดำรงตำแหน่งเป็นคณะมนตรีแอปเตอร์ ซึ่ง เอ็นเอฟเอจะต้องเก็บรักษาไว้ในโกดังของตัว จนกว่าจะมีการแจกจ่ายออกไป แต่เมื่อมีการอนุมัติให้แจกจ่ายได้แล้ว (เมื่อเกิดภัยพิบัติหรือพ้นระยะเก็บรักษา 12 เดือน) หน่วยงานที่ทำหน้าที่แจกจ่ายของเขากลับเป็นอีกกระทรวงหนึ่ง ได้แก่กระทรวงการพัฒนาและสวัสดิการสังคม (Department of Social Welfare and Development) หรือ ดีเอสดับเบิลยูดี โดยกระทรวงนี้ร่วมกับหน่วยงานส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบแจกจ่ายให้กับประชาชนเป้าหมาย
ก่อนที่จะแจกจ่ายแก่ประชาชน ประเพณีที่ต้องจัดขึ้น คือ พิธีการส่งมอบข้าว เริ่มตั้งแต่ กำหนดสถานที่จัดงานร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ เอ็นเอฟเอ ดีเอสดับเบิลยูดี และหน่วยงานท้องถิ่น มีการเชื้อเชิญผู้แทนต่างๆ ตามที่เคยกล่าวไปแล้ว รวมทั้งแอปเตอร์ด้วยทุกครั้ง ตอนครั้งแรกที่ผมไปร่วมงานที่เกาะซามาร์ พิธีการจะเริ่มต้นในช่วงเช้า ผมและคณะพักค้างคืนที่กรุง
มะนิลา ต้องออกเดินทางโดยเครื่องบินสายการบินฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ส เวลาตี 5 ตรง ฉะนั้นจึงต้องเดินทางออกจากโรงแรมที่พักประมาณตี 3 ครึ่ง โดยตื่นกันประมาณตี 2 ครึ่ง เพื่ออาบน้ำแต่งตัว ถ้าคิดเวลาไทยที่ช้ากว่าฟิลิปปินส์ 1 ชั่วโมง เท่ากับว่า คืนนั้นเราตื่นกันตี 1 ครึ่ง เจ้าหน้าที่แอปเตอร์คนหนึ่งที่ไปด้วยกันเลยตัดสินใจไม่นอนเลยคืนนั้น นั่งทำงานอ่านหนังสือจนถึงเวลาก็อาบน้ำเพื่อเดินทางไปขึ้นเครื่องบินกันเลย
นี่ยกตัวอย่างเล็กน้อยให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมเพื่อเดินทางที่ต้องสมบุกสมบันกันพอสมควร ที่ต้องนั่งรถยนต์กันเป็นวันข้ามห้วยข้ามเขาก็มี นั่งเรือไปตามลำน้ำครึ่งวันก็มี ซึ่งจะได้เล่าให้ฟังภายหลังครับ ตอนไปซามาร์พวกเราก็เดินทางพร้อมกับเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นจากโตเกียว ส่วนผู้ใหญ่เอ็นเอฟเอและกระทรวงที่เกี่ยวข้องเดินทางล่วงหน้าไปก่อน เมื่อเดินทางถึงสนามบินปลายทาง คือ เมืองคาตามานมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้บริหารเอ็นเอฟเอ และท่านอื่นๆ มาต้อนรับ พิธีการรับแขกเมืองของฟิลิปปินส์ คือ จะต้องมีพวงมาลัยประดิษฐ์ ที่ไม่ใช่ดอกไม้สดมาคล้องคอแขกทุกคน คณะถูกพาขึ้นรถไปกินอาหารเช้าที่จวนผู้ว่าฯ มีการแนะนำตัว แจกนามบัตร และนั่งกันเป็นโต๊ะๆ 4-5 โต๊ะ ผู้ว่าฯของประเทศฟิลิปปินส์จะมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรง อยู่เป็นเทอมๆ พูดถึงเรื่องนี้ จะว่าไปผู้บริหารใหญ่ๆ ทุกตำแหน่งของประเทศนี้มาจากการเลือกตั้งเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะซึมซับระบอบประชาธิปไตยมาจากสหรัฐอเมริกา
ดังนั้น ผมสังเกตบุคลิกภาพของท่านผู้ว่าฯ ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน เห็นแกเหมือนประชาชนทั่วไปมากกว่าเป็นข้าราชการ เมื่อเทียบกับผู้ว่าฯบ้านเรา แต่งตัวแบบง่ายๆ ไม่มีเครื่องแบบ ดูไม่ค่อยจะเป็นศักดินาเท่าไหร่ เครื่องดื่มบนโต๊ะอาหารนอกจากน้ำธรรมดาแล้ว ที่เห็นทุกที่ คือ น้ำมะม่วง มีรสออกหวานกลิ่นหอม นัยว่า ที่ประเทศฟิลิปปินส์ มีมะม่วงเป็นผลไม้หลักที่มีกินทุกบ้าน บ้างก็ทำเป็นตากแห้งขายกัน ทำเป็นสินค้าขายสำหรับนักท่องเที่ยวก็พบได้ตามสนามบินทุกแห่ง บางครั้งผมก็ซื้อติดมือมาฝากญาติมิตรเมืองไทยบ่อยอยู่ หลายคนท้วงว่า มะม่วงเมืองไทยก็มีเยอะแยะ กินกันจนเบื่อ จะซื้อมาทำไม ก็อธิบายว่า มันเป็นมะม่วงจากต่างประเทศน่ะ บ้านเราแบบนี้ไม่มีกินก็แล้วกัน
แต่เหตุผลอีกอย่างที่น่าจะตรงมากกว่า คือ ไม่รู้จะซื้ออะไร เพราะเท่าที่เห็น สินค้าฟิลิปปินส์ก็ไม่มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากสินค้าบ้านเรา เห็นมีอยู่อย่างที่แปลกพิเศษ ซึ่งพวกกระทรวงเกษตรฯ ไทยไปอบรมดูงานแถวลากูน่า ใกล้มหาวิทยาลัย ยู พี และสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ มักซื้อมาประจำ หรือบางทีก็ตะโกนฝากซื้อ เมื่อใครไปแถวนั้น คือ
“บูโก้ พาย” หรือเค้กมะพร้าว ขนมชนิดนี้บ้านเราไม่เห็นมี เลยเห่อซื้อกันมากิน ทั้งนี้ เพราะที่โน่นนอกจากมีมะม่วงมากแล้ว ยังมีมะพร้าวเยอะอีก เขาเลยทำเค้กมะพร้าว เป็นที่ติดอกติดใจของคนเกษตรไทย ใครที่อ่านแล้วอยากรู้ว่ารสชาติของ
บูโก้ พายเป็นอย่างไร อาจไปลองฝากให้ใครซื้อมากินนะครับ แล้วจะรู้ว่าอร่อยสมกับที่คนต้องแห่ชื้อมาเป็นของฝากจริงหรือเปล่า
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี